เช่นเดียวกับกฎหมายของรัฐ Michigan เมื่อปลายปีที่แล้ว
ในปัจจุบัน บริษัทผู้ผลิตรถยนต์และบริษัทเทคโนโลยี ถูกกำหนดให้ต้องมีคนขับรถนั่งอยู่ที่เบาะหน้ารถ เพื่อควบคุมการทำงานของรถยนต์หากเกิดเหตุผิดปกติ
ซึ่งบริษัทผู้ผลิตจำเป็นจะต้องส่งบันทึกการเดินทางโดยละเอียดไปยังหน่วยงานยานยนต์ของรัฐแคลิฟอร์เนีย
โฆษกประจำ DMV กล่าวว่า "นี่ถือเป็นการก้าวไปอีกขั้น สำหรับการทดสอบรถยนต์ไร้คนขับ และการนำรถยนต์ไร้คนขับดังกล่าวไปใช้งานสาธารณะ ซึ่งผู้ผลิตจะต้องมีความพร้อมในการทดสอบรถยนต์ไร้คนขับนี้ โดยให้บริษัทเปิดเผยข้อมูลอุบัติเหตุที่เกิดจากรถไร้คนขับ"
รถยนต์จะไม่ยังสามารถขับเคลื่อนโดยอิสระได้อย่างสมบูรณ์ โดยยังคงต้องให้วิศวกรคอยเฝ้าระวังรถจากระยะไกล ซึ่งไม่จำเป็นจะต้องมอนิเตอร์รถทีละคัน แต่สามารถมอนิเตอร์ได้ทีละหลายๆคันได้
โดย DMV ยังต้องการให้ตำรวจและหน่วยงานที่มีอำนาจอื่นๆ สามารถเข้าควบคุมและเคลื่อนย้ายยานพาหนะที่ขับเคลื่อนอัตโนมัติออกจากถนนได้ หากเกิดความผิดปกติขึ้น
ในขณะที่กฎเกณฑ์ต่างๆยังไม่ได้รับการสรุป มีเพียงการพูดคุยกับ DMV ในนการอนุญาตให้เปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ สำหรับการเดินทางกับยานพาหนะอัตโนมัติ
เช่นเดียวกับกฎหมายในรัฐ Arizona, Michigan และ Pennsylvania โดยกฎหมายใหม่นี้จะประกาศใช้ในเดือนพฤศจิกายน 2017 เป็นอย่างเร็วที่สุด
ซึ่งจะช่วยให้โรงงานผู้ผลิตมีเวลามากกว่าครึ่งปี เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว
ซึ่งสันนิษฐานได้ว่าโรงงานผู้ผลิตจำนวน 27 ราย ในแคลิฟอร์เนีย พร้อมที่ก้าวเข้าสู่ขั้นตอนต่อไปของรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัตินี้
บริษัท Waymo ซึ่งเป็นฝ่ายพัฒนารถยนต์ไร้คนขับของ Google ได้คาดการณ์ว่า ในอนาคตจะมีบริษัทรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยตัวเองเกิดขึ้นอีกมากมาย
ดังนั้นการมีอุบัติเหตุจากยานพาหนะขับเคลื่อนโดยอัตโนมัติเกิดขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมา ก็เป็นการแสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีนี้ยังไม่สมบูรณ์แบบ ซึ่งยังจะคงมีการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งต่อไปในอนาคต
และเชื่อได้ว่าในอนาคตอันใกล้ เราจะได้เห็นรถยนต์ไร้คนขับวิ่งอยู่ข้างๆ รถของเราอย่างแน่นอน
Reference
http://readwrite.com
------------------
พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ
รองประธาน กสทช. และประธานกรรมการกิจการโทรคมนาคม
www.เศรษฐพงค์.com