svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

เทลอาวีฟ (Tel Aviv)...เมืองอัจฉริยะที่สุดในโลก!!!???

14 มีนาคม 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ปัจจุบันเมืองใหญ่ๆทั่วทุกมุมโลกต่างต้องการพัฒนาเมืองของตัวเองให้ก้าวสู่ "เมืองอัจฉริยะ" หรือ Smart City ซึ่งแนวคิดของเมืองอัจฉริยะนี้ ได้ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อให้เกิดชุมชนเมืองที่อำนวยความสะดวกแก่ประชาชนผู้อาศัยในเมืองนั้นๆ และทำให้ผู้อาศัยได้รับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น กลายเป็นเมืองที่น่าอยู่ และมีการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างมีประสิทธิภาพ มีสภาพแวดล้อมที่ดี สามารถเชื่อมโยงระบบโครงสร้างพื้นฐานของเมืองเข้าด้วยกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เพื่อให้การบริหารจัดการเมืองเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

เมืองเทลอาวีฟ (Tel Aviv) ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่สองของประเทศอิสราเอล ที่ต้องการพัฒนาให้เป็นเมืองอัจฉริยะที่สำคัญเมืองหนึ่งของโลก โดยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สามารถกล่าวได้ว่าเมืองเทลอาวีฟ เป็นเมืองที่เต็มไปด้วย Startup และผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี ผู้ประกอบการด้านไอที และนักลงทุนเป็นจำนวนมาก และในปี 2012 เทลอาวีฟยังได้รับการจัดอันดับให้เป็นเมืองที่มีนวัตกรรมก้าวหน้าเป็นอันดับสองของโลก โดยวารสารวอลล์สตรีท รองจากเมือง Medellin ประเทศโคลัมเบียอีกด้วย 
ซึ่งเป้าหมายของโครงการนวัตกรรมต่างๆ ในเทลอาวีฟนี้ ส่วนใหญ่จะมุ่งเน้นเพื่อให้เกิดประโยชน์กับผู้ทำงานในเมือง และผู้อาศัยในเมืองนี้เป็นหลัก จึงทำให้เมืองเทลอาวีฟได้รับรางวัล "เมืองอัจฉริยะ (Smart City) ที่ดีที่สุดในโลก" ในงาน Smart City Expo World Congress ในบาร์เซโลน่าในปี 2014 โดยได้รับรางวัลจากโครงการ DigiTel ซึ่งเป็นโครงการที่เน้นการมีส่วนร่วมของประชาชน โดยเน้นการมีส่วนร่วมแบบอัจฉริยะกับผู้อาศัยในเมือง และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเมืองเทลอาวีฟก็ได้พัฒนาวิสัยทัศน์ของเมืองอัจฉริยะที่เน้นผู้อยู่อาศัย โดยการปรับปรุงคุณภาพชีวิตของชาวเทลอาวีฟ โดยการรับฟังความต้องการของผู้อยู่อาศัยในเมืองเป็นหลัก 
แพลตฟอร์ม DigiTel ที่พัฒนาขึ้นในเมืองเทลอาวีฟ จะช่วยเพิ่มความสัมพันธ์ระหว่างผู้อยู่อาศัย ด้วยการให้ข้อมูลที่ประโยชน์ และให้บริการส่วนบุคคลแก่ผู้อยู่อาศัยทุกราย ซึ่งจะทำให้สามารถสร้างความสัมพันธ์กับผู้อยู่อาศัยในเมืองเทลอาวีฟได้ โดยการเรียนรู้เกี่ยวกับความต้องการของผู้อยู่อาศัย และทำให้พวกเขามีส่วนร่วมในการพัฒนาและทำให้เมืองมีความก้าวหน้า 
ดังนั้น แนวคิดของโครงการ DigiTel เป็นความพยายามที่เปลี่ยนมุมมองของผู้อยู่อาศัยในเขตเมืองเทลอาวีฟ เพื่อแสดงให้เห็นว่า การพัฒนาเมืองให้ดีขึ้นจะสามารถสร้างคุณค่าให้กับพวกเขาเหล่านั้นอย่างไร ซึ่งความคิดเห็นที่ได้จากผู้อยู่อาศัยนั้นมีความแตกต่างกันไป และในแต่ละครั้งที่มีการเปิดตัวโครงการใหม่ ส่วนใหญ่มักจะเห็นผลลัพธ์ในเชิงบวก ซึ่งแสดงให้เห็นว่าประชาชนในเมืองมีความคิดที่เป็นบวกเกี่ยวกับเครื่องมือ DigiTel ที่นำมาให้บริการแก่ประชาชนซึ่งความคิดในแง่บวกของประชาชนในเมืองถือเป็นสิ่งที่ทำให้โครงการเดินต่อไปได้ดี แต่ประโยชน์ที่แท้จริงจากมุมมองของเมืองก็คือ การที่ประชาชนมีความเข้าใจว่าเมืองเป็นที่สำหรับพวกเขา และจะนำเสนอคุณค่าให้กับพวกเขา ซึ่งได้แก่ การเสนอข้อมูลข่าวสาร กิจกรรม และบริการต่างๆ ทุกประเภทที่เกี่ยวข้องให้กับพวกเขาได้ ตัวอย่างเช่น หากคุณบอกเราว่าคุณมีความสนใจในการวิ่งมาราธอน เราจะส่ง SMS มาให้คุณ พร้อมกับข้อมูลเกี่ยวกับการวิ่งมาราธอนในเมืองเทลอาวีฟ นอกจากนี้เรายังมอบส่วนลดให้กับชาวเทลอาวีฟอีกด้วย ดังนั้นถ้าคุณต้องการเข้าร่วมการวิ่งมาราธอน และคุณเป็นผู้อาศัยอยู่ในเมืองเทลอาวีฟ เราจะให้ส่วนลด 20% เมื่อคุณได้ลงทะเบียนเข้าร่วมการวิ่งมาราธอน เป็นต้น
ดังนั้น การมีส่วนร่วมในเมืองจึงถือเป็นประเด็นสำคัญในการดำเนินการตามวิสัยทัศน์ของเมืองอัจฉริยะ ซึ่งปัจจุบันนี้ เป็นที่เข้าใจได้อย่างชัดเจนว่า "เมือง" จะไม่สามารถกลายเป็นเมืองอัจฉริยะได้ หากไม่มีความสัมพันธ์อันแนบแน่นของประชาชนผู้อาศัยในเมืองกับกระบวนการพัฒนาเมืองที่เกี่ยวข้อง การจะทำให้เมืองเป็นเมืองอัจฉริยะได้นั้น ผู้อาศัยในเมืองจะต้องเป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินการเปลี่ยนแปลง ไม่สามารถแยกออกจากกันได้ โดยผู้อาศัยในเมืองจำเป็นจะต้องมีส่วนร่วมในกระบวนการตัดสินใจและมีรับผิดชอบร่วมกัน เพื่ออนาคตของพวกเขาและอนาคตของเมือง ซึ่งการมีส่วนร่วมในชุมชนจะก่อให้เกิดความพึงพอใจของประชาชนภายในเมืองได้ 
ลักษณะสำคัญของเมืองอัจฉริยะมีองค์ประกอบที่สำคัญหลักๆ ที่มีผลต่อความสำเร็จของเมืองอัจฉริยะ ได้แก่ คน กระบวนการ และเทคโนโลยี โดยจะต้องตระหนักถึงความต้องการของผู้อยู่อาศัยในเมือง เข้าใจถึงปัจจัยสำคัญที่ผลักดันเศรษฐกิจของเมือง และสร้างนโยบายและเป้าหมายที่ตอบสนองความต้องการของผู้อาศัยอยู่ในเมือง เจ้าของธุรกิจ และนักท่องเที่ยว
โดยความคิดริเริ่มในการทำเมืองอัจฉริยะของกรุงเทลอาวีฟ ได้แก่การอำนวยความสะดวกด้วยบริการอินเทอร์เน็ตไร้สาย (Wi-Fi) "ฟรี" ในพื้นที่สาธารณะ และปรับปรุงการให้บริการในเขตเมือง เพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย และสร้างเงื่อนไขสำหรับการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน และเหนือสิ่งอื่นใดยังได้แสดงให้เห็นถึงบทบาทที่ชาญฉลาดในการใช้เทคโนโลยี เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการมีส่วนร่วมของผู้อาศัยในเมือง และสร้างความมั่นใจว่าเมืองสามารถเข้าถึงและตอบสนองทุกอย่างได้ โดยกิจกรรมของเมืองส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับสวัสดิการสังคม วัฒนธรรมและการพักผ่อน รวมไปจนถึงการวางแผนเกี่ยวกับเมือง น้ำ และการจัดการจราจร
แต่ความท้าทายที่สำคัญของเมืองเทลอาวีฟ ในการพัฒนาสู่เมืองอัจฉริยะ ได้แก่ (1) การขาดระบบการขนส่งสาธารณะที่เพียงพอและมีประสิทธิภาพ ซึ่งเทลอาวีฟเพิ่งจะเริ่มต้นนำรถไฟสายแรกเข้ามาใช้ในเมือง (2) ปัญหาด้านค่าครองชีพ และต้นทุนของที่อยู่อาศัย และ (3) ปัญหาด้านแรงงานต่างชาติที่ผิดกฎหมาย ซึ่งขณะนี้เทลอาวีฟมีแรงงานต่างชาติที่ผิดกฎหมายประมาณ 12 15 %
สำหรับการพัฒนาสู่เมืองอัจฉริยะ ไม่ควรมองหรือศึกษาที่เมืองใดเมืองหนึ่งเท่านั้น ควรจะทำการศึกษาหลายๆที่ เนื่องจากในการจัดการกับปัญหาเดียวกัน เช่นในการขนส่ง การบำบัดน้ำเสีย และการศึกษา ในแต่ละเมืองอาจมีวิธีการในการแก้ปัญหาที่แตกต่างกัน การศึกษาจากกรณีศึกษาในแต่ละที่ อาจจะทำให้เกิดแนวคิดแก้ปัญหาบางอย่างที่ดีกว่า ดังนั้นความพร้อมในเรื่อง คน เทคโนโลยี และการสนับสนุนของเมือง จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าเทลอาวีฟสามารถพัฒนาสู่เมืองอัจฉริยะที่ดีที่สุดในโลกได้ไม่ยาก 


Reference http://www.iotworldnews.com------------------พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณรองประธาน กสทช. และประธานกรรมการกิจการโทรคมนาคม
www.เศรษฐพงค์.com-------------------หากท่านสนใจความรู้ด้านดิจิทัลเข้าร่วมกับเราและทักเข้ามาที่LINE id : @march4g-------------------

logoline