svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

อิตาลี-สเปน-อีซีบีเผชิญเงินทุนไหลออกอย่างรุนแรง 4.13 หมื่นล้านยูโร หลังเงินเฟ้อแตะ 2%

07 มีนาคม 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ประเทศกลุ่มยูโรโซนเผชิญปัญหาเงินทุนไหลออกอย่างรุนแรง (Capital Flight) จากทั้งสเปน-อิตาลี-อีซีบี ไปสู่เยอรมันมากกว่า 4.13 หมื่นล้านยูโรนับจากเดือนธันวาคมปีที่แล้วจนถึงขณะนี้ หลังจากสัญญาณเงินเฟ้อที่สูงขึ้นแตะระดับ 2% ในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเงินดังกล่าวมาจากเม็ดเงิน QE จากการอัดฉีดของอีซีบีที่เข้าซื้อบอนด์ภาคเอกชนในประเทศที่ประสบวิกฤติทางการเงิน เพื่อทำให้เกิดความสมดุลจากวงเงินเป้าหมายเดือนละ 8 หมื่นล้านยูโร โดยที่อีซีบีได้ใช้เงินดำเนินการไปแล้ว 8 แสนล้านยูโรมาตั้งแต่ปี 2012


ขณะที่กรรมาธิการด้านการเงินในวุฒิสภาจากรัฐอาริโซน่าของสหรัฐท้าทายการดำเนินนโยบายการเงินแบบผูกขาดของธนาคารกลางสหรัฐที่กำหนดให้ต้องถือธนบัตรเงินดอลลาร์ที่พิมพ์ออกมาใช้อย่างเสรีมาตั้งแต่ปี 1971 โดยเสนอให้คนอเมริกันสามารถถือตั๋วที่มีโลหะเงินและทองคำ หรือโลหะอื่นหนุนหลังได้ โดยไม่ต้องเสียภาษีกำไร หรือ Capital Gain Tax เพื่อที่จะสะสมความมั่งคั่งหลังจากเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้น แทนการถือธนบัตรเงินดอลลาร์ที่มีแต่จะเสื่อมค่าลงในอนาคต

1.เกิดปัญหาเงินทุนไหลออกอย่างรุนแรง หรือ Capital Flight ระหว่างปลุ่มประเมศในยูโรโซนด้วยกันเอง โดยเฉพาะจากอิตาลีและสเปน รวมทั้งธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เข้าไปสู่เยอรมันมากกว่า 4.13 หมื่นล้านยูโรนับจากเดือนธันวาคมปีที่แล้วจนถึงขณะนี้ เนื่องจากเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นแตะระดับ 2% โดยเฉพาะเงินเฟ้อในเยอรมันที่พุ่งสูงกส่า 2.2% ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทั้งนี้เป็น Capital Flight จากเสปนเป็นวงเงินมากถึง 2.21 หมื่นล้านยูโร ไหลออกจากอิตาลี 8.1 พันล้านยูโร และไหลออกจากอีซีบีอีก 1,22 หมื่นล้านยูโร
โดยเงินดังกล่าวมาจากเม็ดเงิน QE จากการอัดฉีดของอีซีบีที่เข้าซื้อบอนด์ภาคเอกชนในประเทศที่ประสบวิกฤติทางการเงิน เพื่อทำให้เกิดความสมดุลจากวงเงินเป้าหมายเดือนละ 8 หมื่นล้านยูโร โดยที่อีซีบีได้ใช้เงินดำเนินการไปแล้ว 8 แสนล้านยูโรมาตั้งแต่ปี 2012 จากเป้าหมายที่กำหนดไว้ 1 ล้านล้านยูโร ซึ่งปัจจุบันอีซีบีได้เข้าซื้อบอนด์ธุรกิจเอกชนที่เป็นลูกหนี้ของแบงก์ โดยถือสะสมเป็นจำนวนถึง 11% เนื่องจากหลายประเทศได้เกิดวิกฤติแบงก์ที่มีปัญหาหนี้เสียจำนวนมากอีกด้วย
การเกิดาภวะ Capital Flight ในหลายประเทศของกลุ่มยูโรโซนที่ร่วมกันใช้สกุลเงินยูโรเดียวกัน 17 ประเทศยังคงสะท้อนว่าปัญหาวิกฤติหนี้และวิกฤติการเงินที่ยังไม่จบสิ้นทั้งที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2009

2.ขณะที่การเคลื่อนไหวของกรรมาธิการด้านการเงินในวุฒิสภาจากรัฐอาริโซน่าของสหรัฐท้าทายการดำเนินนโยบายการเงินแบบผูกขาดของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่กำหนดให้ต้องถือธนบัตรเงินดอลลาร์ที่พิมพ์ออกมาใช้อย่างเสรี โดยเสนอให้คนอเมริกันสามารถถือตั๋วที่มีโลหะเงินและทองคำ หรือโลหะอื่นหนุนหลังได้ โดยไม่ต้องเสียภาษีกำไร หรือ Capital Gain Tax เพื่อที่จะสะสมความมั่งคั่งหลังจากเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้น แทนการถือธนบัตรเงินดอลลาร์ที่มีแต่จะเสื่อมค่าลงในอนาคต
ทั้งนี้ ล่าสุดเงินเฟ้อของสหรัฐปรับตัวสูงขึ้นมาแตะที่ 1.6% ซึ่งใกล้เคียงระดับเป้าหมาบที่เฟดตั้งไว่ที่ 2% ขณะที่การพิมพ์ธนบัตรเงินดอลลาร์ออกมาใช้อย่างเสรี เกิดขึ้นหลังจากช่วงที่ประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน ได้ยกเลิกการใช้มาตรฐานทองคำที่หนุนหลังการพิมพ์ธนบัตรดอลลาร์มาตั้งแต่ปี 1971

3.จับตา 15 มีนาคมใน 3 ประเด็นสำคัญคือ ประเด็นแรก การประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงินของเฟดจะตัดสินใจปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% หริอไม่หลังจากที่มีตลาดมีการให้น้ำหนักการปรับขึ้นดอกเบี้ยในช่วงการประชุม 14-15 มีนาคมมากขึ้นเป็นกว่า 50% จากระดับ 30% ช่วงก่อนหน้าภายหลังจากที่ดัชนีราคาหุ้นทั้ง3 ตลาดหลักทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยดาวโจนส์ทะลุระดับ 21,100 และ Nasdaq ทะลุ 5,900 เมื่อต้นเดือนมีนาคมก่อนที่จะย่อตัวลดลงในช่วงสัปดาห์นี้ปิดตลาดล่าสุดที่ 20,954 และ 5,849 ตามลำดับ
ส่วนประเด็นที่ 2 คือมูลหนี้ของรัฐบาลาหรัฐ 20 ล้านล้านดอลลาร์ที่พุ่งชนเพดานอีกครั้ง จะส่งผลให้เกิดภาวะการผิดนัดชำระหนี้และ Shut Down เป็นครั้งแรกภายใต้การบริหารของโดนัลด์ ทรัมป์ หรือไม่
และประเด็นที่ 3 ต้องตามลุ้นผลเลือกตั้งของเนเธอร์แลนด์ที่ฝ่ายชาตินิยมซึ่งมีคะแนนนิยมเป็นต่อในขณะนี้ จะสามารถชนะการเลือกตั้งและนำมาสู่การทำประชามติ หรือ Nexit เพื่อถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปหรือไม่

4.ขณะที่ปมขัดแย้งปัญหาผู้อพยพเข้าสหรัฐจนเกิดเรื่องราวใหญ่โตและคาเรื่องฟ้องร้องอยู่ที่ศาลขณะนี้ ล่าสุดประธานาธิบดีทรัมป์ออกคำสั่งบริหารฉบับที่ 2 ลดความร้อนแรงในปมขัดแย้งจากเดิมที่ออกคำสั่งฉบับแรกเมื่อวันที่ 27 มกราคม โดยยอมตัดอิรักออกจาก 7 ประเทศที่ถูกสั้งแบนผู้เดินทางห้ามเข้าสหรัฐจากอีก 6 ประเทศที่เหลือคือ อิหร่าน ลิเบีย โซมาเลีย เยเมน ซูดาน และซีเรีย เป็นเวลา 90 วัน
แต่ยังคงห้ามรับผู้อพยพ 120 วันเพียงแต่ไม่พุ่งเป้าเฉพาะซีเรีย อย่างไรก็ตามทรัมป์ยังคงต้องเจอกับฟ้องอีกจำนวนมากในเรื่องการริดรอนสิทธิเสรีภาพ รวมทั้งยังจะเป็นการบั่นทอนสถานภาพทางการเมืองในประเทศต่อไป ถึงแม้จะอ้างเหตุผลว่าเพื่อความมั่นคงของประเทศก็ตาม

5. ระบแบงก์ของจีนมีขนาดสินทรัพย์ใหญ่ที่สุดในโลกถึง 33 ล้านล้านดอลลาร์ แซงหน้าสหภาพยุโรปที่เคยครองอันดับหนึ่ง ตกลงมาเป็นอันดับ 2 มีขนาดสินทรัพย์ของแบงก์เท่ากับ 31 ล้านล้านดอลลาร์ ขณะที่ระบบแบงก์สหรัฐมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 จำนวน 16 ล้านล้านดอลลาร์ และระบบแบงก์ญี่ปุ่นเป็นอันดับ 4 มีขนาด 7 ล้านล้านดอลลาร์
โดยมูลค่าของระบบแบงก์จีนมีขนาดเป็น 310% ของจีดีพี ขณะที่ระบบแบงก์ยุโรปมีขนาดเท่ากับ 280% ของจีดีพี สะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจจีนยังขยายตัวในระดับที่ร้อนแรง ถึงแม้ว่าอัตราการเติบโตในจีดีพีของจีนจะชะลิตัวลงมรา 6,5% ในปีนี้ แต่เป้าหมายปนิมาณเงินที่เป็น M2 ยังคงขยายตัวในระดับ 12%  

logoline