svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

Startup 90% ล้มเหลว แล้วอีก 10% ที่สำเร็จ เขาทำอะไรกัน?

23 กุมภาพันธ์ 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

หนุ่มสาวที่มีพลังสมองและกระหายในการสร้างสรรค์ธุรกิจใหม่ หรือที่เราเรียกว่า "startup" กำลังสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ทั่วโลกที่ต้องการประสบความสำเร็จอย่าง Google, Uber และ Airbnb เป็นต้น โดยรูปแบบธุรกิจ startup เหล่านี้ ได้เข้ามาทำลายล้างรูปแบบการทำธุรกิจแบบดั้งเดิม ซึ่งในอดีต เราคงนึกไม่ออกว่า การที่เราจะหาข้อมูลทุกอย่างในโลกนี้ได้ด้วยนิ้วสัมผัสจะเกิดขึ้นในวันนี้ หรือจะเป็นการเรียกรถของคนแปลกหน้ามารับเราที่บ้านเพื่อพาเราไปถึงจุดหมายที่ต้องการ ไปจนถึงเราสามารถเคาะประตูบ้านของใครก็ไม่รู้เพื่อเข้าพักคล้ายกับเป็นโรงแรมทั่วไป แต่สิ่งเหล่านี้เองที่กลับกลายเป็นภัยคุกคามต่อธุรกิจดั้งเดิม ที่เคยยิ่งใหญ่มาก่อน

โดยทั่วไปในโลกธุรกิจ ความล้มเหลวของ startup ทั่วโลกนั้น สูงถึง 90% ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการควรที่จะต้องมีการพิจารณาไตร่ตรองเป็นอย่างดีเสียก่อน และต้องมีการพิจารณาถึงสาเหตุที่ทำให้ startup บางรายต้องล้มเหลว ก่อนที่จะดำเนินการเปิดตัวธุรกิจใหม่ และที่สำคัญผู้ประกอบการ จำเป็นที่จะต้องรู้สถานการณ์ความเป็นจริงของตลาดและพฤติกรรมของผู้บริโภคอย่างลึกซึ้ง ทั้งในปัจจุบันและในอนาคต
อย่างไรก็ตาม สถิติโดยประมาณดังกล่าวนั้น ไม่ควรนำมาคิดให้หลอกหลอนจนขัดขวางความกล้าที่จะเริ่มต้น startup แต่เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ startup ควรที่จะต้องมีวิธีการทำงานอย่างชาญฉลาดและมีความเข้มงวดกว่าเดิม แต่ทั้งนี้ก็ใช่ว่าจะทำให้ startup สามารถประสบความสำเร็จได้ทุกราย แต่ความสำเร็จที่ได้มานั้น ควรจะต้องมีองค์ประกอบหลายอย่างมาเกื้อหนุนเสมอ
จากการรวบรวมคุณลักษณะของ startup ที่ประสบความสำเร็จ สามารถสรุปคร่าวๆ ได้ดังนี้(1) สามารถสร้างผลิตภัณฑ์ที่เป็นที่ต้องการของตลาดอย่างแท้จริงนิตยสาร Fortune ได้รายงานถึงสาเหตุหลักที่ทำให้ startup ประสบความล้มเหลว นั่นก็คือ "การสร้างผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีใครต้องการ" ซึ่งจากผลสำรวจพบว่าความล้มเหลวนี้ มีสัดส่วนมากที่สุดถึง 42% จึงแสดงให้เห็นว่าการที่ผลิตภัณฑ์ไม่ได้เป็นที่ต้องการของตลาด เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ Startup ล้มเหลว ดังนั้นในการสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ ควรใช้เวลาในการพิจารณาและสร้างความมั่นใจว่าสินค้านั้นเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างแท้จริง
(2) ผู้ประกอบการจะต้องไม่เพิกเฉยในรายละเอียดภายหลังจากบริษัทแห่งหนึ่งต้องปิดกิจการลง ผู้บริหารบริษัทดังกล่าวได้กล่าวว่า "แนวคิดด้านผลิตภัณฑ์ที่ดี และการมีทีมงานทางเทคนิคที่แข็งแกร่ง ไม่สามารถรับประกันได้ว่าธุรกิจจะมีความยั่งยืน ซึ่งสิ่งหนึ่งที่บริษัทควรมีก็คือ การที่ทุกคนไม่นิ่งเฉยกับกระบวนการทางธุรกิจ และประเด็นปัญหาเล็กๆ ที่เกิดขึ้น เพราะอาจมองว่าไม่ใช่หน้าที่ของตัวเอง ซึ่งหากคิดเช่นนั้นอาจทำให้บริษัทประสบความล้มเหลวได้ในที่สุด"
หากบริษัทมีลักษณะธุรกิจที่ชัดเจน แต่กลับมองข้ามความสำคัญของกระบวนการทางธุรกิจไปและมองว่าเป็นสิ่งที่น่าเบื่อ อย่างเช่น CEO มักจะคิดว่างานหลักของเขาคือการเป็นผู้นำ CMO ที่มุ่งเน้นเฉพาะการตลาด หรือนักพัฒนาโปรแกรม ก็มักจะคิดว่างานของตัวเองคือการเขียนโปรแกรม โดยไม่สนใจปัญหาหรืองานด้านอื่นๆ เป็นต้น แต่ธุรกิจ startup อาจจะไม่สามารถแยกหน้าที่ความรับผิดชอบได้อย่างละเอียดชัดเจน โดยหน้าที่ความรับผิดชอบของบุคลากรในธุรกิจ startup อาจจะมีความคาบเกี่ยวกัน ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับ startup ก็คือ ความยุ่งยากของกระบวนการทางธุรกิจ รูปแบบธุรกิจ และความยืดหยุ่นในการดำเนินธุรกิจ ดังนั้นผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จ จะต้องเข้าใจว่าพวกเขาจะต้องทำงานในธุรกิจของพวกเขา ไม่ใช่ทำงานเฉพาะหน้าที่ของตัวเอง
(3) บริษัทเติบโตอย่างรวดเร็ว ทั้งผู้ประกอบการ นักลงทุน และนักการตลาด ต่างต้องการให้ธุรกิจของตัวเองเติบโต ซึ่งการที่ธุรกิจเติบโตได้อย่างรวดเร็วถือเป็นสัญญาณที่ดีในตลาด ตัวอย่างเช่น ผู้ก่อตั้ง Wantful (ที่ปิดกิจการไปแล้ว) ได้สารภาพว่าการที่พวกเขาไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากการเร่งให้บริษัทเติบโตสูงเกินจริงในช่วงแรก ซึ่งจะต้องอาศัยเงินทุนจำนวนมาก จึงต้องทำการระดมทุนอย่างต่อเนื่อง แต่บริษัทไม่สามารถเติบโตอย่างรวดเร็วได้ทันตามแผน นั่นคือจุดเริ่มต้นของความล้มเหลว ดังนั้น starup ที่คาดหวังเกินจริงว่าจะสามารถแผ่ขยายธุรกิจได้รวดเร็ว แต่ยิ่งผ่านไประยะเวลาหนึ่งแล้ว บริษัทก็ยังไม่เติบโต จึงอาจเป็นสัญญาณว่าบริษัทอาจจะไม่มีการเติบโตต่อไปแล้ว
(4) ทีมงานใน starup ต้องมี sense ว่าทำอย่างไรจึงพลิกสถานการณ์เป็นบวกได้Startup ทุกรายจะมีทีมงานคอยสนับสนุน ยิ่งทีมงานมีความหลากหลาย จะยิ่งทำให้มีโอกาสในการประสบความสำเร็จได้มาก ดังนั้น ความสามารถรอบตัวของธุรกิจ Startup นอกจากจะมีความเกี่ยวข้องกับทักษะและความสามารถของบุคคลแล้ว ยังมีความเกี่ยวข้องกับแนวความคิดอีกด้วย โดยทีมของ startup จะต้องมีความสามารถในการเปลี่ยนแปลงผลิตภัณฑ์ ปรับปรุงแผนการจ่ายผลตอบแทนที่แตกต่างจากเดิม การนำแนวทางการตลาดใหม่มาใช้ การเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรม การเปลี่ยนโฉม (rebrand) ธุรกิจ หรือการรื้อธุรกิจเก่าทิ้งและเริ่มต้นธุรกิจใหม่อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ในการดำเนินธุรกิจให้มีความต่อเนื่องนั้น บุคลากรในองค์กรควรจะมีการทำงานร่วมกันและมีการประสานงานกันอยู่เสมอ และฝังเป็นวัฒนธรรมนอกจากนี้ startup ที่มีผู้ร่วมก่อตั้งหลายราย จะมีโอกาสประสบความสำเร็จมากกว่า startup ที่มีผู้ก่อตั้งเพียงรายเดียว เนื่องจาก ผู้ร่วมก่อตั้งธุรกิจ จะสามารถสร้างความร่วมมือ และมีผู้ร่วมรับผิดชอบมากกว่า 1 คน ซึ่งจะช่วยให้บริษัทสามารถหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นจากผู้นำเพียงคนเดียวได้ อีกทั้งผู้ร่วมก่อตั้งอาจจะมีทักษะหรือความสามารถที่บริษัทยังไม่เคยมีมาก่อนอีกด้วย
ธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งในระดับโลก เช่น Google และ Facebook ต่างก็มีเหตุผลว่า ทำไม starup อย่างพวกเขาจึงประสบความสำเร็จ ซึ่งเหตุผลหลักๆ ก็คือ การมีสินค้าและบริการที่ตรงกับความต้องการของตลาดอยู่ตลอดเวลา และการไม่เพิกเฉยต่อการพัฒนาสิ่งใหม่ๆ ที่ควรทำให้เกิดขึ้น แม้เป็นประเด็นเล็กๆ ซึ่งจะทำให้ startup สามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งหาก startup มีลักษณะดังเช่นที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว จะทำให้สามารถประสบความสำเร็จได้ในที่สุด
Referencehttp://www.forbes.com/sites/neilpatel/2015/01/16/90-of-startups-will-fail-heres-what-you-need-to-know-about-the-10/#ad76a2d55e19-------------------พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณรองประธาน กสทช. และประธานกรรมการกิจการโทรคมนาคม23 กุมภาพันธ์ 2560www.เศรษฐพงค์.com-------------------หากท่านสนใจความรู้ด้านดิจิทัลเข้าร่วมกับเราและทักเข้ามาที่LINE id : @march4g-------------------

logoline