svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

"อลัน กรีนสแปน"ฟันธง Gold Standard เป็นหลักประกันความมั่นคงระบบการเงินโลกในปัจจุบัน

21 กุมภาพันธ์ 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

อลัน กรีนสแปน อดีตประธานเฟด ในยุคที่ฟองสบู่ดอทคอมแตกช่วงทศวรรษ 1980s เชื่อว่า ระบบมาตรฐานทองคำ หรือ Gold Standard จะเป็นนโยบายที่เป็นหลักประกันความมั่นคงดีที่สุดสำหรับระบบการเงินโลกในปัจจุบัน ในการนำมาใช้หนุนหลังการพิมพ์เงินออกมาหมุนเวียนใช้จ่ายในระบบการเงินของธนาคารกลางทั่วโลก ท่ามกลางความกังวลว่าจะเกิดภาวะเศรษฐกิจชะงักงันขึ้นในอนาคต

ขณะที่ทรัมป์และทีมงานกลับคาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐที่ดีเกินจริง โดยตั้งเป้าหมายที่จะกระตุ้นให้อยู่ในระบบ 3-3.5% และรักษาอัตราเงินเฟ้อไว้ที่ 3.2% จากการเน้นนโยบายใช้จ่ายทางการคลัง การปรับลดภาษี และการสร้างงานเพิ่มขึ้น
ส่วนการเจรจาเงินกู้ช่วยเหลือของกรีซที่ถูกเลื่อนไปนั้น รัฐมนตรีคลังประจำแคว้นบาวาเรียของเยอรมัน ออกมาแนะนำกรีซให้นำทองคำ หรืออสังหาริมทรัพย์ มาทำการจำนำเพื่อเป็นหลักประกันการพิจารณาเงินกู้ช่วยเหลือจากบรรดาเจ้าหนี้ และเพื่อที่กรีซจะสามารถดำเนินนโยบายเศรษฐกิจต่อไป
1.อลัน กรีนสแปน อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในยุคที่ฟองสบู่ดอทคอมแตกช่วงทศวรรษ 1980s กล่าวสนับสนุนให้นำระบบมาตรฐานทองคำ หรือ Gold Standard มาใช้หนุนหลังในการพิมพ์เงินออกมาใช้หมุนเวียนของธนาคารกลางทั่วโลก โดยเชื่อว่าเป็นนโยบายที่เป็นหลักประกันความมั่นคงดีที่สุด ในภาวะที่เศรษฐกิตโลกขณะนี้เริ่มกลายเป็นความกังวลว่าจะเกิดภาวะเศรษฐกิจชะงักงันขึ้น
รวมทั้งเพื่อสร้างความมั่งคั่งให้กับคนในชาติ หรือใช้เป็นสินทรัพย์เพื่อการป้องกันความเสี่ยงสูงของโลก และรับมือกับการเลือกตั้งในยุโรปที่อาจเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างพลิกผันไปจากเดิม
โดยเฉพาะการนำมาใช้กับระบบการเงินสหรัฐในปัจจุบัน หลังจากที่สหรัฐได้ยกเลิกการถือสำรองเงินตราระหว่างประเทศที่ใช้มาตรฐานทองคำหนุนหลังนั้นได้ถูกยกเลิกไปตั้งแต่ปี 1971 ในยุคประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน ที่สนับสนุนให้ธนบัตรเงินดอลลาร์เป็นทุนสำรองของโลกแทนมาตรฐานทองคำ ส่งผลให้ดอลลาร์มีอิทธิพลไปทั่วโลกขณะนี้
2.ในทางตรงกันข้ามภาวะหนี้สินของสหรัฐกลับพุ่งขึ้นเรื่อยๆ จากช่วงทศวรรษ 1980 อยู่ที่ 220% ของจีดีพี เพิ่มขึ้นใกล้ระดับ 320% ของจีดีพีปัจจุบัน อันเป็นผลมาจากการที่นโยบายการเงินของเฟดที่มีการใช้นโยบายดอกเบี้ยต่ำใกล้ศูนย์เปอร์เซ็นต์มาเป็นเวลานาน
ขณะที่ความมั่งคั่งกระจุกตัวอยู่ที่คนอเมริกันที่ร่ำรวยเพียง 1% ส่วนอีก 99% ยังคงเป็นคนชั้นกลางและยากจน เหตุเพราะหลังจากที่สหรัฐยกเลิกมาตรฐานทองคำกลุ่มคนที่ร่ำรวยสามารถทำกำไรโดยใช้วิธีการเงินต่อเงินสร้างความมั่งคั่งให้กับตนเอง ส่วนกลุ่มคนระดับล่างกลับทำรายได้คงที่เท่านั้น แต่โดนัลด์ ทรัมป์ กลับมีแนวคิดที่จะนำเอามาตรฐานทองคำกลับมาใช้ในระบบการเงินสหรัฐอีก
นอกจากนี้ การพิมพ์ธนบัตรเงินดอลลาร์ออกใช้จ่ายโดยไม่จำกัดและมีปริมาณเงินที่มากเกินไป ทำให้มีความเสี่ยงสูงต่อการเสื่อมค่าที่ลดลงของเงินดอลลาร์ในอนาคต โดยเฉพาะในช่วงที่เงินเฟ้อกำลังมีการปรับตัวสูงขึ้นในขณะนี้ ซึ่งหากเฟดมีการปรับดอกเบี้ยสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเพื่อสกัดกั้นเงินเฟ้อแล้ว ในที่สุดแล้ว โอกาสที่เศรษฐกิจอาจต้องเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจชะงักงันภายใต้เงินเฟ้อที่เสี่ยงสูงขึ้นในอนาคต
3.ทางด้านทีมงานของทรัมป์คาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐที่ดีเกินจริง โดยตั้งเป้าหมายที่จะกระตุ้นให้อยู่ในระเบ 3-3.5% และรักษาอัตราเงินเฟ้อไว้ที่ 3.2% ขณะที่ทรัมป์เคยกล่าวให้สัมภาษณ์ในช่วงที่เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีใหม่ๆ นั้น จะทำให้จีดีพีสหรัฐโตได้ถึง 4% ในช่วง 8 ปีที่เขาจะอยู่ในตำแหน่ง จากการใช้นโยบายการคลังลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานะ 1.1 ล้านล้านดอลลาร์ และการลดภาษีเงินได้ที่จะทำให้รัฐสูญรายได้เบื้องต้น 2 ล้านล้านดอลลาร์ โดยหวังเพิ่มการจ้างงานอีก 25 ล้านคนนั้น
แต่นักวิเคราะห์ยังคงมองว่า การประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจดังกล่าวยังคงดีเกินไป เช่นเดียวกับที่สมัยของประธานาธิบดีบารัก โอบามา ที่เข้ารับตำแหน่งช่วงเศรษฐกิจถดถอย ก็มีการตั้งเป้าจีดีพีช่วงปี 2010-2014 ให้เติบโตที่ 3.5-4.5% แต่ในความเป็นจริงอัตราจีดีพีกลับไม่เคยเติบโตเกินกว่า 3% เลย 4.นักลงทุนยังคงมีการเทขายบอนด์ฝรั่งเศสที่เชื่อมโยงกับปัญหาเศรษฐกิจ และความกังวลต่อปัญหาการเมืองในอนาคตจากความนิยมในพรรคการเมืองฝ่ายขวาที่พร้อมจะดำเนินนโยบายชาตินิยมมีมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะกับบอนด์ที่ออกมาในช่วงปี 2011-2012 ส่งผลให้บอนด์ยีลด์พุ่งขึ้น แต่มีราคาบอนด์ที่ตกต่ำลง โดยบอนด์ยีลด์อายุ 10 ปีของรัฐบบาลฝรั่งเศสพุ่งขึ้นที่ 1.064% ซึ่งมีส่วนต่างจากบอนด์ยีลด์ของรัฐบาลเยอรมันที่ 0.84% ทั้งที่เมื่อ 6 เดือนก่อนอยู่ที่ 0.22% เท่านั้น
5.Markus Soeder รัฐมนตรีคลังจากแคว้นบาวาเรียของเยอรมัน วัย 50 ปี ซึ่งเป็น 1 ใน 10 นักการเมืองของยุโรปที่ถูกมองว่าเป็นบุคคลอันตรายมากที่สุด แนะนำกรีซให้นำทองคำ เงินสด หรืออสังหาริมทรัพย์ มาทำการจำนำเพื่อเป็นหลักประกันในการพิจารณาเงินกู้ช่วยเหลือจากบรรดาเจ้าหนี้ ซึ่งน่าจะเป็น Plan-B ที่สำรองไว้
ทั้งนี้ กรีซมีทุนสำรองที่เป็นทองคำอยู่ราว 4 พันล้านยูโรในปัจจุบัน ซึ่งเป็นเตรียมการไว้หากในกรณีที่กรีซจะต้องหลุดออกจากกลุ่มยูโรโซน หรือออกจากการใช้สกุลลเงินยูโร ซึ่งกรีซก็จะสามารถผลิตเงินตราที่เป็นสกุลเงินของตัวเองได้ เพื่อใช้จ่ายในประเทศและเพื่อการชำระสินค้า และเพื่อที่เศรษฐกิจของกรีซจะสามารถดำเนินต่อไปได้ในอนาคต

logoline