กล้วยน้ำว้าที่นำมาแปรรูปเป็นกล้วยฉาบ หรือกล้วยกรอบแก้ว น.ส.เบญจรัตน์ สัจจา บอก รับซื้อจากชาวบ้านในพื้นที่ อ.แหลมสิงห์ เนื่องจากชาวบ้านนิยมปลูกกันมากตามบ้าน ตามนาข้าวและที่ว่างตามนาเลี้ยงกุ้ง ทำให้กล้วยที่มีรสชาติหวานผลใหญ่ เพราะเป็นดินน้ำกร่อย และปุ๋ยจากขี้กุ้ง กับมีผลผลิตมากพอเพียงกับแปรรูปทำเป็น กล้วยฉาบ ได้ทุกตลอดทั้งปี
ทุกเช้าคนในกลุ่มชนบ้านท่าหัวแหวน ที่อยู่ข้างศาลาเอนกประสงค์วัดท่าหัวแหวน จะมาร่วมตัวกันสังสรรค์พูดคุยเรื่องราวของวันที่จะผ่านไป ก่อนจะช่วยกัน ก่อไฟด้วยไม้ฟืน อันเป็นความเชื่อว่าทำให้กล้วยมีกลิ่นหอมชวนรับประทาน มากกว่าเตาแก๊ส จากนั้นทุกคนจะลงมือ ปลิดผลไม้ด้วยมือที่ละผลอย่างแคล้วคล่องว่องไว และทำการแช่น้ำล้างเอายางกล้วยและสิ่งสกปรกจากผิวกล้วยออกไป
ขณะที่ ชาวบ้านอีกกลุ่มจะช่วยกันใช้มีดคมกริบทำการปลอกเปลือกกล้วยและนำเนื้อกล้วยออกมาใส่ถาดทยอยส่งให้อีกกลุ่มทำการฝานด้วยมีดคู่ที่ไวเหมือเครื่องจักรกล
หลังจากได้กล้วยที่ฝานพอดีกับตะกร้า ก็จะนำไปผึ่งแดดผึ่งลมสัก 15 นาที เพื่อให้ฝาดกล้วยแห้ง เวลาทอดเนื้อกล้วยจะได้ไม่ติดกัน ใช้ไฟที่ได้จากฟืนอ่อนๆทอดกล้วย แบบใจเย็น เมื่อเห็นว่าน้ำมันที่ทอดกล้วยเริ่มหายแตกฟู แสดงว่ากล้วยเริ่มแห้ง ใช้กระชอนค่อยพลิกกับแผ่นกล้วย รอจนสีของเนื้อกล้วยเริ่มออกเหลืองทองอร่าม จึงทำการตักขึ้นมาก ผึ่งให้สะเด็ดน้ำมัน ขณะเดียวกันก็ทำการเตรียมฉาบกล้วยที่เป็นน้ำตาลทราย หรือเกลือแกง ด้วยการเคี้ยวน้ำกับน้ำตาลจนเหนี่ยวได้ที่ จากนั่นก็ต้องรีบนำกล้วยลงไปฉาบในกระทะ ทันที่
ส่วนรสไหนจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับจำนวนทีลูกค้าขาประจำสั่งไว้ คือทีทั้งรสหวานและรสเค็ม โดยทั่งชนิดหวานและเค็มนี้ ยังแบ่งเป็น2 ประเภทคือ กล้วยฉาบระหวานเค็มแบบกล้วยแก่ กับกล้วยสุก ทีเรียกว่า กล้วยเบรกแตก เพราะกล้วยฉาบที่กล้วยสุกนั้นจะหวาน จนคนทานหยุดไม่ได้นั้นเอง
แต่ปัจจุบันนี้ ตลาดกล้วยฉาบมิใช่เพียงแต่ผู้ใหญ่เท่านั้น เด็กๆก็นิยมมารับประทานเนื่องจากเด็กเริ่มเรียนรู้จากสื่อออนไลน์ว่า กล้วยน้ำว่ามีคุณค่าทางอาหารสูงทำให้คุณยายสาว กับบุตรสาวคือนางสาวเบญจรัตน์ ทำการปรับปรุงรสเพิ่มขึ้นเพื่อตามความนิยมของเด็กๆ และวัยรุ่นคือ รสบาร์บีคิว กับรสส่าหร่ายทะเล โดยเฉพาะรสสาหร่ายทะเล เด็กชอบทานกันมาก
เบญจรัตน์ บอก การทำกล้วยฉาบต้องไม่มีเหลี่ยม เพราะกล้วยมีเหลี่ยมเป็นกล้วยยังไม่แก่จัด เนื้อติดเปลือก รสชาติไม่ดีฝาด ส่วนกล้วยสุกน้ำมาทอดที่เป็นที่เรียกกันว่า กล้วยฉาบเบรกแตกนั้น ต้องสั่ง ถึงจะทอดให้เพราะต้องการกล้วยน้ำว้าที่สุกมาทอด สำหรับการหักมุมชีวิตนักออกแบบโปรแกรมคอมพิวเตอร์ มาเป็นสาวกล้วยฉาบ เพื่อต้องการทำงานที่เป็นนายตัวเองดีกว่า ด้วยเหตุผลเพียงสั้นๆ จึงชวนพ่อแม่พี่น้องคนในชุมชนหมูที่ 7 บ้านท่าหัวแหวน อ.แหลมสิงห์ มาทำกล้วยฉาบขายกันในหมู่บ้านเมื่อ 7 ปีที่ผ่านมา
และใช่ชื่อมาราของตนเองเป็นโลโก้ ว่า กล้วยฉาบแม่สาว จนทุกวันนี้มีขาประจำมารับซื้อทั้งซื้อไปทานเองและมารับแบบยกถุงกิโลไปขาย ส่วนราคานั้น เบญจรัตน์ บอกว่า มีราคาตั้งแต่ถุงละ 4 บาท จนไปถึงราคา 100 บาทต่อถุง เบญจรัตน์บอกความลับในการดูแลใบหน้าที่ที่ทำการทอดกล้วยทุกวันแต่หน้ากับเนียนไม่เกิดสิวสักเม็ดเดียว บอกว่า เวลาทอดกล้วยจะไม่เอาหน้าไปอยู่ใกล้กับกะทะทอดกล้วยที่ไม่ความร้อนและไอน้ำมันลอยขึ้นมา