"เบสท์ริน" แจงนำเข้าเมล์เอ็นจีวีถูกต้อง

ประธานบริษัทเบสท์ริน กรุ๊ป ออกมาแถลงจุดยืน โดยยืนยันอีกครั้งว่า การนำเข้ารถเมล์เอ็นจีวี ทางบริษัทได้ดำเนินการตามขั้นตอนอย่างถูกต้อง ขอกรมศุลลากรเร่งดำเนินการตรวจสอบให้ได้ข้อยุติโดยเร็ว แต่หากพบว่าเอกสารForm d เป็นเอกสารปลอม บริษัทพร้อมที่จะจ่ายภาษีและเสียค่าปรับตามกฏหมาย
ประธานบริษัทเบสท์ริน กรุ๊ป ผู้ชนะประมูลโครงการจัดหารถโดยสาร NGV จำนวน 489 คัน ให้กับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก. ณิสสร์ ศรีวชิรประภา ออกมาแถลงจุดยืนและยืนยันว่า การดำเนินการนำเข้ารถเมล์เอ็นจีวี ทางบริษัทได้ดำเนินการอย่างถูกต้องตามขั้นตอนของศุลกากรแล้ว โดยบริษัทมีหน้าที่เป็นเพียงผู้จัดการหารถเมล์ให้ได้ตามสเปคที่ ขสมก.กำหนด และนำเอกสารที่ทางมาเลเซียออกให้มานำส่งให้ศุลกากรของไทยเท่านั้น

ส่วนกระบวนการออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดหรือ Form d เป็นอย่างไร ทางเราไม่สามารถตอบได้ เพราะเป็นความลับของหน่วยงานภายในของมาเลเซีย ซึ่งขณะนี้กรมศุลกากรก็อยู่ระหว่างการตรวจสอบ

แต่ทั้งนี้หากตรวจสอบแล้วพบว่าเอกสารรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าที่บริษัทนำมาแสดงประกอบการนำเข้ารถโดยสารเอ็นจีวีเป็นเอกสารปลอม บริษัทพร้อมชำระภาษีรวมทั้งค่าปรับให้กรมศุลกากรตามกฏหมาย

หลังจากนั้นบริษัทจะฟ้องเรียกค่าเสียหายจากโรงงานผลิตและประกอบรถโดยสารในประเทศมาเลเซียต่อไป คือ บริษัท อาร์ แอนด์ เอ คอมเมอร์เชียล เวฮิเคิล ฐานแสดงเอกสารรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าปลอมให้บริษัท
สำหรับรถเมล์ล็อตที่ 2 กว่า 140 คัน ที่ได้เดินทางมาถึงที่ท่าเรือแหลมฉบังเมื่อคืนที่ผ่านมา ประธาน บ.เบสท์ริน กรุ๊ป บอกว่ายังใช้เอกสาร Form D รูปแบบเดิมที่ใช้แสดงต่อกรมศุลฯก่อนหน้า ซึ่งหากกรมศุลฯต้องการกักรถไว้เพื่อตรวจสอบทางบริษัทก็ยินดีให้ความร่วมมือ แต่ก็จะยังดำเนินการนำเข้ารถเมล์ทั้ง 489 คัน ตามกรอบระยะเวลาเดิม

ส่วนตามกำหนดการเดิมของ ขสมก.ที่ได้มีกำหนดนำรถโดยสารเอ็นจีวีดังกล่าว มาเปิดตัวต่อนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีในวันที่ 21 ธ.ค.นี้ ก่อนจะนำไปทดลองให้บริการประชาชนในเส้นทางอนุเสาวรีย์ประชาธิปไตย-พระบรมมหาราชวัง ในวันที่ 22 ธ.ค.2559 ยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะทันหรือไม่ ดังนั้นจึงอยากจะขอให้กรมศุลกากรเร่งดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้เร็วที่สุด

ทั้งนี้เบื้องต้นทางบริษัทจะทำหนังสือถึงกระทรวงการคลัง เสนอทางออกเพื่อนำรถออกมาได้เร็วที่สุดและส่วนเรื่องที่จะทำหนังสือร้องถึงรองนายกรัฐมนตรี สมคิด นั้น ขณะนี้ขอรอดูความชัดเจนจากกรมศุลกากรก่อน