กรมป่าไม้ชวนปลูกป่าเศรษฐกิจ

ในงานเสวนา "ป่าเศรษฐกิจ ทางเลือกในการส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชนและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน" จัดโดยองค์กรธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั้งยืน
ผู้บริหารสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย ศ.ดร.เผดิมศักดิ์ จารยะพันธุ์ บอกว่า ปัจจุบันพื้นที่ป่าไม้เกิดความเสียหายและลดลงอย่างมาก จากความต้องการพื้นที่ในการพัฒนาเศรษฐกิจ เทคโนโลยี และอุตสาหกรรมของประเทศ จึงเกิดการใช้ทรัพยากรและที่ดินป่าไม้อย่างไม่ถูกต้องและไม่เหมาะสม ดังนั้นจึงจำเป็นต้องฟื้นฟูผืนป่าจากการบุกรุกและทำลาย ซึ่งป่าเศรษฐกิจเป็นทางเลือกหนึ่งในการช่วยฟื้นฟูผืนป่า โดยการส่งเสริมให้ชุมชนปลูกไม้ที่จะนำไปใช้ประโยชน์ทางเศรษฐกิจโดยตรง เช่น ไม้สัก และยูคา เพราะนอกจากจะเป็นการเพิ่มผืนป่า ยังเป็นการสร้างรายได้กับกับชุมชนอย่างยั่งยืนด้วย
ทั้งนี้การน้อมนำพระราชดำริเรื่องป่าไม้ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ ท่านได้ทรงมีพราชดำริไว้มาก ซึ่งสิ่งที่สำคัญที่ได้น้อมนำมาปฏิบัติคือ การปลูกป่าในใจคน หรือการปลูกฝังให้ประชาชนชาวไทยรักป่า และอนุรักษ์พื้นที่ป่า
ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมการปลูกป่า กรมป่าไม้ จงคล้าย วรพงศธร บอกว่า ปัจจุบันไทยมีพื้นที่ป่าเหลือเพียง 61 ล้านไร่ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 ระบุไว้ว่า ต้องการเพิ่มพื้นที่ป่าไม้ให้ได้ร้อยละ 40 ของพื้นที่ทั้งหมด หรือประมาณ 128 ล้านไร่ แบ่งเป็นพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 80 ล้านไร่ และป่าเศรษฐกิจประมาณ 48 ล้านไร่ ที่ผ่านมายอมรับว่า การสนับสนุนในด้านการปลูกป่าเศรษฐกิจยังมีข้อจำกัดหลายอย่างทั้งกฏระเบียบต่างๆ ที่ทำให้เอกชนไม่สามารถเข้ามาพัฒนาและปลูกป่าเศรษฐกิจได้อย่างเต็มที่ ซึ่งขณะนี้กรมป่าไม้อยู่ระหว่างการดำเนินการเพื่ออำนวยความสะดวก และวางแนวทางการส่งเสริมให้ชุมชนมีการปลูกไม้เศรษฐกิจมากขึ้น เช่นการตั้งกองทุนส่งเสริมการปลูกไม้เศรษฐกิจ และธนาคารต้นไม้