svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

รวบ นศ.ติดยาบ้าหนัก เสพครั้งละ 20 เม็ด ก่อนผันตัวมารับจ้างส่งยา อ้างหาค่าเทอม

24 กันยายน 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

(24 ก.ย.60) หนุ่มนักศึกษาติดยาบ้าหนักเผยเสพครั้งละ 20 เม็ด ก่อนผันตัวมารับจ้างส่งยาอ้างหวังนำเงินจ่ายค่าเทอม ตร.ทางหลวงเผยคนค้ายาบ้าปรับเปลี่ยนมาใช้รถจักรยานยนต์ ขนส่งแบบกองทัพมด เพราะสะดวกในการหลบหนีและตบตาเจ้าหน้าที่

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 24 ก.ย. 60 พ.ต.ต.กฤษฎา บุญศิริ สว.ส.ทล.2 กก.4 บก.ทล. แถลงข่าวจับกุมนายกฤษณุพงษ์ ทบสมัย นักศึกษาชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในจังหวัดอุดรธานี หลังตรวจค้นพบยาบ้า 38,000 เม็ด
พ.ต.ต.กฤษฎา กล่าวว่า หลังจากสายข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของขบวนการค้ายา จะมีการขนยาบ้าจากจ.อุดรธานี มาส่งที่ จ.ขอนแก่น โดยครั้งนี้ทราบว่าคนร้ายใช้รถจักรยานยนต์ในการขนส่ง จึงได้ประสานตำรวจทางหลวง ตั้งจุดตรวจจุดสกัด ที่ ต.กุดน้ำใส อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น กระทั่งนายกฤษณุพงษ์ ขับขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า สกูปปี้ ทะเบียน 1 กฆ 8214 บึงกาฬ พร้อมสะพายเป้สีดำมาด้วย เมื่อพบจุดสกัดกลับแสดงท่าทางพิรุธ ได้เลี้ยวกลับไปทางอำเภอน้ำพอง เจ้าหน้าที่จึงขับรถติดตามพร้อมเข้าตรวจค้น จนพบยาบ้า 38,000 เม็ด มูลค่ากว่า 7 ล้านบาท
จากการสอบสวนทราบว่า นายกฤษณุพงษ์ เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในจังหวัดอุดรธานี เสพยาเสพติดครั้งละ 20 เม็ด จนติดงอมแงม จากคนเสพจึงรู้จักกับคนขายยา จากนั้นได้รับการติดต่อจากคนขายยาบ้าให้รับจ้างส่งยาจาก จ.อุดรธานี มาที่ จ.ขอนแก่น โดยให้ค่าจ้างขนครั้งละ 10,000 บาท จึงตัดสินใจส่งยา โดยอ้างว่าต้องการนำเงินไปซื้อหนังสือเรียนและจ่ายค่าเทอม
"นายกฤษณุพงษ์ สารภาพว่า เมื่อวันที่ 23 ก.ย. 60 เพื่อนชื่อนายต้นใหม่ ได้ให้ไปรับยากับพ่อค้ายาประเทศเพื่อนบ้านที่ จ.หนองคาย จากนั้นจึงเปลี่ยนมาใช้รถจักรยานยนต์ขับมาส่งยาบ้าที่ จ.ขอนแก่น สำหรับในช่วงนี้พบว่าในพื้นที่รับผิดชอบมีการค้ายาที่เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้บ่อยครั้ง คาดว่า กลุ่มผู้ค้า ผู้ส่ง คิดว่าในช่วงฝนตกกลางคืน จะไม่มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ รวมทั้งพบว่า คนร้ายมีการปรับเปลี่ยนหันมาใช้รถจักรยานยนต์มาใช้ในการส่งยาครั้งนี้ที่จับได้เป็นครั้งที่ 3 แล้ว เพราะส่วนใหญ่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะตรวจจับรถยนต์ นอกจากนี้การใช้รถจักรยานยนต์เพื่อความคล่องตัว หลบหลีก ตบตาเจ้าหน้าที่ได้ง่าย ส่วนรูปแบบยังคงทำตามเดิม คือจะมีรถนำขบวนมาก่อน เพื่อดูว่าตามเส้นทางส่งยาจะมี การตั้งจุดตรวจ จุดสกัดหรือไม่ ก่อนจะส่งสัญญาณให้คนที่ขนยาได้ทราบ ก่อนจะนำยาไปส่งตามที่นัดกันไว้ ในกรณีนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงได้ตรวจค้นรถกระบะต้องสงสัยที่คาดว่าเป็นรถนำขบวนด้วย แต่เมื่อไม่มีสิ่งผิดกฎหมายจึงต้องปล่อยไป กระทั่งสอบปากคำนายกฤษณุพงษ์ จึงทราบว่าได้ขับตามรถยนต์นำขบวนมา ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ขยายผลติดตามรถคันดังกล่าว รวมทั้งขบวนการผู้ค้าทั้งหมดให้ได้" พ.ต.ต.กฤษฎา กล่าว

logoline