"ทกซูรี" แผลงฤทธิ์ ซัดเสาไฟแรงสูงโค่นทับเก๋ง ต้นไม้ล้มทับรถบัส ไฟดับมืดทั่วเมือง

เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 15 ก.ย.60 ที่จังหวัดนครพนม อิทธิพลพายุร้อนไต้ฝุ่นทกซูรี เคลื่อนปกคลุมประเทศลาว ส่งผลให้พื้นที่ จ.นครพนม โดยเฉพาะ อ.เมือง มีฝนตกหนักมาตั้งแต่ช่วง 15.00 น. ยาวนานจนถึงช่วงพลบค่ำ อีกทั้งยังมีลมกระโชกรุนแรงเป็นระยะ ส่งผลให้ต้นไม้ใหญ่หักโค่นล้มทับรถบัสบรรทุกสาวงามผู้ประกวด Miss All Nations Thailand 2017 26 คน รวมทั้งพี่เลี้ยง 30 ชีวิตที่มาทำกิจกรรมทัศนศึกษาดูงานที่พิพิธภัณฑ์จวนผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม หลังคายุบได้รับความเสียหาย แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ
แรงลมที่กระโชกแรงส่งผลให้เสาไฟฟ้าแรงสูงที่ปักไว้ริมถนนบายพาส 4 เลน ถนนทางหลวงหมายเลข 212 สายนครพนม-ท่าอุเทน ช่วงปากทางเข้าบ้านนาสมดี ล้มระเนระนาดกว่า 20 ต้น ทำให้รถเก๋งยี่ห้อเชฟโรเลต สีบรอนซ์ ทะเบียน กค 5610 นครพนม ของ น.ส.เจณิสตา ตรีภัทรพัฒน์ เจ้าหน้าที่งานสารบรรณ มหาวิทยาลัยนครพนม ถูกเสาไฟฟ้าล้มทับกระโปรงรถบุบเสียหาย สายไฟแรงสูงยังเกี่ยวไปที่ประตูรถฝั่งคนขับ พร้อมมีประกายไฟกระเด็น เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าจึงสั่งตัดกระแสไฟฟ้า ก่อนเร่งเข้าไปช่วยเหลือ ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ซึ่งทำให้ไฟดับเป็นบริเวณกว้าง เจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงนครพนม จึงปิดกั้นการจราจรช่วงปากทางเข้าบ้านนาสมดี-หมู่บ้านอัมพร 2 ระยะทางกว่า 500 เมตร ทำให้ไฟดับมืดมิดในหลายตำบล
นอกจากนี้ยังพบว่าต้นตีนเป็ดล้มทับรถกระบะของเจ้าหน้าที่การประปาส่วนภูมิภาค(กปภ.)นครพนม ที่จอดอยู่บ้านพักข้างโรงพยาบาลนครพนม ได้รับความเสียหายทำให้ไฟดับและน้ำประปาหยุดไหลทั่วเมือง และยังมีรายงานว่า เมื่อเวลา 19.00 น. วันเดียวกัน ต้นไม้ล้มขวางทับถนนทางหลวงหมายเลข 2033 สายหนองญาติ-นาแก ต.หนองญาติ ช่วงก่อนถึงโค้งสำนักงานที่ดิน จ.นครพนม กรีดขวางทางสัญจร ส่งผลให้รถติดทั้งขาเข้า-ขาออก ยาวกว่า 2 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่เทศบาล ต.หนองญาติ จึงเร่งนำอุปกรณ์ไปตัดเพื่อให้สัญจรไปมาได้สะดวก
ขณะเดียวกันเสาไฟฟ้าที่หน้าโรงกรองน้ำประปาที่สูบมาจากแม่น้ำโขง ข้าง นรข. ถนนนครพนม-ท่าอุเทน ถูกต้นไม้โค่นทับหักล้มใส่ ทำให้การผลิตประปาหยุดชะงัก ซึ่งนายกฤษณ์ ทาทอง ผู้จัดการประปานครพนม ระบุว่า ขณะนี้น้ำประปาไม่ไหลทั่วเมืองนครพนม และตำบลรอบนอกหลายตำบล ซึ่งอยู่ระหว่างเร่งแก้ไข
และอีกในหลายพื้นที่มีต้นไม้หักโค่นทับขวางถนน เจ้าหน้าที่ระดมกำลังเร่งตัดต้นไม้ให้สัญจรไปมาอย่างเร่งด่วน ซึ่งป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประกาศเตือนให้ชาวบ้านระวังน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมฉับพลันโดยเฉพาะราษฎรที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำพร้อมจัดเวรยามเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมงอย่างต่อเนื่องต่อไป