กลุ่มผู้ต้องหาตามหมายจับประกอบด้วย นายนันทพร (หรือโอ๊ด) บุญมาก อายุ 23 ปี นายอธิพัชร์ (หรือก้อง) อภิญญากุล อายุ 23 ปี นายสันติ (หรือลาภ) ทิพมล อายุ 23 ปี และนายศุภกร (หรือก๊อฟ) โสภา อายุ 23 ปี ส่วนอีก 2 คน นายเจมส์ กับ นายบิ๊ก สารภาพว่าแค่แวะไปหาแล้วก็กลับ ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบสวนเพิ่ม ผู้ต้องหา 4 คน ถูกออกหมายจับในข้อหา "ร่วมกันฆ่าผู้อื่น ย้ายหรือทำลายศพ เพื่อปิดบังสาเหตุการตาย และร่วมกันข่มขืนกระทำชำเรา ลักษณะโทรมหญิง ภายหลังทนายความรณรงค์ แก้วเพช์ร พร้อมด้วยพ่อและแม่ของนางสาวนิศากร พุ่มพงษ์ อายุ 24 ปี ผู้ตาย ได้เดินทางมาร้องเรียนต่อรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล เพื่อขอความเป็นธรรมและให้เร่งรัดคดี วันนี้รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้ร่วมซักถามปากคำผู้ต้องหาที่ สภ.หนองแค แม้ทั้ง 4 คน จะยังให้การปฎิเสธ
จากการสอบปากคำผู้ต้องหาแม้จะยังให้การปฏิเสธ ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการรุมโทรมหญิงและฆาตกรรม แต่ทางตำรวจยืนยันว่ามีพยานหลักฐานชัดเจนในที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นดีเอ็นเอบนร่างกายของผู้ตาย ทั้งรอยแผล ขนเพชร อสุจิ และยังพบดีเอ็นเอ ของผู้ต้องหาบางคน บนวัตถุที่ใช้สำหรับผูกคอ รวมถึงข้อความบนโซเชียลมีเดีย ที่มีการส่งถึงกันในวันเกิดเหตุ ขณะที่ในตัวผู้ตาย พบแอลกอฮอลล์ในปริมาณหนึ่ง ซึ่งต้องรอสอบปากคำผู้เชี่ยวชาญประกอบ และยังมีหลักฐานคำให้การของพยานทั้งหมด 25 ปาก เพื่อยืนยันว่า จะสามารถเอาผิดผู้ต้องหาทั้งหมดได้ ด้านพ่อน้องบุ๋มและทนายความบอกว่า คดีนี้ดูจะสลับซับซ้อน ตนเองจะเกาะติด ไม่ปล่อยให้คนร้ายลอยนวล แม้จะปฎิเสธ
เจ้าหน้าตำรวจคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปให้พยาน ที่เป็นเพื่อนของผู้ตายชี้ตัว ว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริงหรือไม่ และเป็นการยืนยันคำให้การของพยาน โดยพยานยืนยันใบหน้าผู้ต้องหาเพียง 2 คน เท่านั้น ที่อยู่ในวันเกิดเหตุ
ส่วนสาเหตุจูงใจเชื่อได้ว่าการก่อเหตุรุมโทรม เป็นชนวนเหตุที่ทำให้เกิดการฆาตกรรม ซึ่งเป็นไปได้ว่า กลุ่มผู้ต้องหาเกรงผู้ตายจะเอาเรื่อง จึงมีคำสั่งให้ตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี เรียกตำรวจที่เป็นพ่อของหนึ่งในผู้ต้องหามาพบ เพื่อทำบันทึกกำชับไม่ให้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับคดี ส่วนขั้นตอนหลังจากนี้ ได้ทำการสอบปากคำผู้ต้องหาเพิ่ม ทำประวัติพิมพ์ลายนิ้วมือ ก่อนจะนำตัวขออำนาจศาลจังหวัดสระบุรีฝากขังในวันพรุ่งนี้ พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเกรงว่าจะหลบหนี