"ศรีสุวรรณ" ร้อง "ป.ป.ช" สอบ "ผบ.ตร" ปล่อย "บอส" หนี

 กล่าวว่า สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยร้องเรียนเจ้าหน้าที่ของรัฐละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือกระทำการอัน เข้าข่ายการทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการและหรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรมตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตพ.ศ. 2542 ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ในกรณีกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อประโยชน์ต่อผู้ต้องหาเพื่อไม่ให้ถูกดำเนินคดีฐานขับรถขณะเมาสุรา ขับรถเร็วกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดและความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและอื่นๆ จนหมดอายุความลง และหลบหนีออกนอกประเทศ ทั้งนี้ นายวรยุทธ หรือ บอส อยู่วิทยา ทายาทตระกูลดังเจ้าของบริษัทเครื่องดื่มชูกำลัง ตกเป็นผู้ต้องหาใน 5 ข้อหา คือขับรถในขณะเมาสุรา ขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ขับรถโดยประมาททำให้ทรัพย์สินเสียหาย ไม่หยุดรถให้ความช่วยเหลือและไม่แจ้งเจ้าพนักงาน ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายนายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ทางสมาคมฯ จำต้องยื่นร้อ

งเรียนต่อ คณะกรรมการป.ป.ช. เพื่อให้สอบสวนและดำเนินการเอาผิดกับ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท. ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล นายเศกสรรค์ บางสมบุญ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ นายสุพล ยุติธาดา อดีตอัยการอาวุโส นายฤชา ไกรฤกษ์ อัยการเจ้าของสำนวนและพวก ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ปล่อยให้ผู้ต้องหาในคดีอาญาหลบหนีออกนอกประเทศ อันเข้าข่ายการทุจริตต่อหน้าที่ ตามพ.ร.บ.ป.ป.ช. เพื่อไม่ให้เป็นกรณีเยี่ยงอย่างที่ไม่ถูกต้อง จนกลายเป็นความเคยชินในสังคมไทยได้ต่อไป

"ตลอดเวลา 5 ปี ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่สำนวนคดี และอัยการสูงสุด (อสส.) ที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐละเลยการปฏิบัติหน้าที่ หรือกระทำการอันเข้าข่ายการทุจริตต่อหน้าที่ และกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ โดยการประวิงเวลาล่าช้า ซึ่งคดีขับรถชนคนตายไม่ได้มีอะไรยุ่งยากมาก แต่เจ้าหน้าที่สำนวนคดีกลับเลื่อนฟ้องคดี 5-6 ครั้ง ต่อศาลจน นายวรยุทธ หรือ บอส สามารถหลบหนีไปต่างประเทศได้ ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถเร่งดำเนินการจับผู้ร้ายข้ามแดนได้ แต่ที่ผ่านเป็นการโยนเรื่องกันไปมา ถือว่าเป็นการเพิกเฉยและละเลยต่อการปฏิบัติหน้าทีอย่างเห็นได้ชัด ขณะนี้คดีความได้หมดอายุความไปแล้ว 4 ข้อหา ตั้งแต่ 3ก.ย. ที่ผ่านมา คือ ขับรถในขณะเมาสุรา ขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ขับรถโดยประมาททำให้ทรัพย์สินเสียหาย และไม่หยุดรถให้ความช่วยเหลือและไม่แจ้งเจ้าพนักงาน

 เหลือเพียง 1 ข้อหาที่ยังไม่หมดอายุความ คือ ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และการที่ไม่สามารถนำผู้ต้องหาในคดีนี้มาส่งฟ้องศาลได้ภายใต้อายุความ อันถือเป็นความผิดทางวินัยและความผิดทางอาญาหรือไม่และถือว่าเป็นการร่วมมือกันประวิงเวลาหรือค้าสำนวนคดีหรือไม่อย่างไร" นายศรีสุวรรณกล่าวนายศรีสุวรรณ กล่าวอีกว่า ทางสมาคมฯ จึงมาขอความยุติธรรม ซึ่งที่ผ่านมามีคนพูดว่า คนรวยมักจะลอยนวล ส่วนคุกเอาไว้ขังคนจนเท่านั้น คดีนี้เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อสังคมไทยจึงอยากให้ ป.ป.ช.ช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริง และอยากให้เจ้าของสำนวนคดี และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องออกมาชี้แจงเรื่องดังกล่าวให้ประชาชนว่าได้ดำเนินการไปถึงขั้นตอนไหนแล้ว////