ลูกสาวชาร์จ เพาเวอร์แบงค์ ไว้ในห้องนอน เกิดไฟไหม้บ้าน

เมื่อเวลา 19.00 น.วันนี้ (23 ส.ค. 2560) ร.ต.อ.ทศพร อุตมะพรหม พนักงาสอบสวนเวร สภ.เมืองร้อยเอ็ด รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ ในซอยตรงข้าม รพ.ชุมชน ถนนเสนาเริ่มคิด ใกล้วงเวียน 5 แยก สายน้ำผึ้ง กลางเมืองร้อยเอ็ด จึงแจ้งไปยังดับเพลิง เทศบาลเมืองร้อยเอ็ด เดินทางไปตรวจสอบระงับเหตุ พร้อมรถดับเพลิง 3 คัน ที่เกิดเหตุพบว่าไปกำลังลุกไหม้ ที่ชั้น 2 บ้านเลขที่ 20/3 ที่เป็นชั้นล่างเป็นบ้านปูน และชั้นบนเป็นไม้ ซึ่งไฟกำลังโหมไหม้อย่างรุนแรง ในห้องนอนทางด้านทิศตะวันตกของบ้าน 
ซึ่งเจ้าหน้าที่ดับเพลิง โดยการควบคุม สั่งการของนายนุชากร มาศฉมาดล รองนายนกเทศมนตรีเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด เร่งระดมฉีดน้ำทั้งทางด้านนอก และ ส่วนหนึ่ง เข้าไปในบ้าน ฝ่าควันไปขึ้นไปถึงบนบ้าน เพื่อควบคุมเพลิง และใช้เวลา 20 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ ก่อนที่จะลามไปยังบ้านข้างเคียง ที่เป็นบ้านไม้ และชายคาติดกัน 
จากการสอบสวนปากคำ นางนางเพ็ญพักตร์ วงจันลา อายุ 57 ปี เจ้าของบ้าน กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุ ตนอยู่ชั้นล่างของบ้าน กับนายทนุ แสงปาก อายุ 53 ปี สามี ที่กำลังให้อาหารแมว ปรากฏว่าเห็นแสงไฟสว่างผิดปกติ บนบ้าน ขึ้นไปดูพบว่าไฟกำลังไหม้ในห้องนอนลูกสาว ล๊อคประตูห้องนอน ออกไปธุระนอกบ้าน จึงรีบโทรแจ้งตำรวจและดับเพลิงมาระงับเหตุ 
และจากการสอบสวนปากคำ นางชมพูนุช วงจันลา อายุ 36 ปี ลูกสาวเจ้าของบ้าน ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนเองได้เสียบชาร์ตแบตสำรองโทรศัพท์ หรือพาวเวอร์แบ๊งค์ ไว้ในห้องนอน แล้วล๊อคห้องออกไปธุระนอกบ้าน และยืนยันว่าไม่มีการเสียบเครื่องใช้ไฟฟ้าใดๆไว้ในห้อง นอกจากเสียบชาร์ตแบตสำรองโทรศัพท์ เพียงอย่างเดียวเท่านั้น เชื่อว่าสาเหตุเกิดจากเพียงเหตุเดียวเท่านั้น ที่ก่อให้เกิดไฟไหม้ จนสิ่งของเสื้อผ้า เคร่องใช้ในห้องโนไปไหม้เสียหามด โชคดี ไม่ลามไปทั้งหลัง 
ซึ่งหลังจากระงับเหตุได้ ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้เตือนว่า หากไม่มั่นใจในด้านความปลอดภัย เวลาจะออกจากบ้าน ควรที่จะต้องถอดสายปลั๊กไปทุกชนิดออก ก่อนไปทำธุระนอกบ้านเพื่อความปลอดภัย เพื่อเป็นการ เฝ้าระวังป้องกันการเกิดเพลิงไหม้ ในบ้านเรือนของตนเอง ซึ่งอาจจะเกิดความเสียหายรุนแรงและสูญเสียอย่างใหญ่หลวงได้