สาวขโมย สร้อยคอพร้อมจี้ ถูกเจ้าของจับได้

(22 สิงหาคม 2560) ที่ สภ.เมืองตรัง นางสาวสุภัทรา คงเพ็ชร อายุ 23 ปี เจ้าของร้านเสริมสวยแห่งหนึ่งในซอยควนขนุน ถ.พัทลุง ต.ทับเทียง อ.เมือง จ.ตรัง พร้อมด้วยนางสาวสุธารัตน์ ทองอินทร์ อายุ 20 ปี อยู่บ้านเดียวกัน หลานสาว และเพื่อนรวม 4 คน ได้นัดนางสาวดวงใจ สารีมีน อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 129/3 หมู่ที่ 2 ต.คลองชีล้อม อ.กันตัง ซึ่งได้ขโมยสร้อยคอทองคำ น้ำหนักประมาณ 2 บาท พร้อมจี้ทองคำรูปมังกร น้ำหนัก 2 สลึง มูลค่าประมาณ 50,000 บาท ไปจากหน้าตู้กระจกชั้น 2 ของบ้าน ซึ่งเปิดเป็นร้านเสริมสวยไปตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา
จนกระทั่งนางสาวสุภัทรา และนางสาวสุธารัตน์ น้า-หลาน สามารถติดตามสืบหาจนทราบว่านางสาวดวงใจเป็นคนขโมยไป จึงนัดมาพบที่ สภ.เมืองตรัง เพื่อให้นำสร้อยคอทองคำพร้อมจี้ดังกล่าวมาคืน เบื้องต้น ทางเจ้าของทรัพย์ได้แจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.เมืองตรัง ตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา แต่ทางนางสาวดวงใจคนที่ลักทรัพย์ไปไม่ยอมรับจนกระทั่งมายอมรับในวันนี้ และพยายามติดต่อให้แม่เดินทางมาพบ เพื่อนำเงินมาไถ่ถอนคืน
นางสาวสุภัทรา กล่าวว่า สร้อยคอทองคำพร้อมจี้ทองคำรูปมังกรดังกล่าวตนเองถอดวางไว้ที่หน้าตู้กระจก เมื่อคืนวันที่ 9 สิงหาคม จากนั้นได้ไปออกกำลังจนกระทั่งรุ่งเช้าวันที่ 10 สิงหาคม ขณะแต่งตัวจึงจะหยิบมาสวมใส่ก็พบว่าหายไปแล้ว เหลือเพียงกำไลข้อมือ จึงพยายามสอบถามนางสาวดวงใจ ซึ่งเป็นเพื่อนกับนางสาวสุธารัตน์ หลานสาว และไปนอนที่ร้าน แต่นางสาวดวงใจไม่ยอมรับ จึงได้แจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ จนกระทั่งพบว่า นางสาวดวงใจมีการโพสต์ภาพในเฟซบุ๊กส่วนตัว สวมใส่แหวนทองคำ รวมทั้งซื้อโทรศัพท์มือถือใหม่ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยมี
จึงได้เดินทางไปสอบถามที่ร้านขายเสื้อผ้าหลังตลาด ที่นางสาวดวงใจทำงานอยู่ พร้อมนำภาพสร้อยคอทองคำและจี้ทองคำให้กับพนักงานขายเสื้อผ้าดู ก็ได้รับคำยืนยันว่า นางสาวดวงใจซึ่งได้ออกจากงานไปแล้ว เคยนำสร้อยคอพร้อมจี้ดังกล่าวมาบอกขายเพื่อนพนักงานในร้าน จึงได้ติดตามนางสาวดวงใจอีกครั้ง และยอมรับสารภาพว่า เอาจี้ทองคำดังกล่าวไปขายที่ร้านหนึ่ง ได้เงินจำนวน 8,000 บาท ซึ่งตนเองตามไปจนพบจี้ทองคำดังกล่าวแล้ว ส่วนสร้อยคอนางสาวดวงใจนำไปขายให้แก่ร้านทองแห่งหนึ่งในตลาดเทศบาลนครตรัง หากนางสาวดวงใจนำสร้อยคอพร้อมจี้มาคืนให้แก่ตนเองได้ ก็จะไม่เอาเรื่อง แต่หากไม่เอามาคืน ก็จะแจ้งความดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ด้านนางสาวดวงใจ ยอมรับสารภาพว่าเป็นคนขโมยสร้อยคอทองคำพร้อมจี้ดังกล่าวจริง จากนั้นนำจี้ไปขายที่ร้านแห่งหนึ่งได้เงิน 8,000 บาท และสร้อยคอก็นำไปขายที่ร้านทองแห่งหนึ่งเป็นเงิน 8,000 บาทเช่นกัน แต่ขณะให้สัมภาษณ์ นางสาวดวงใจเผลอบอกว่า ได้เงินมารวมกว่า 20,000 บาท โดยบอกว่าเสียใจที่ก่อเหตุดังกล่าวขึ้น อยากจะขอโทษเจ้าของ ต่อไปจะไม่ทำอีก ซึ่งเจ้าของบอกว่าหากเอาสร้อยคอพร้อมจี้ทองคำมาคืนได้จะไม่เอาเรื่องตนเอง ขณะนี้ตนเองจึงติดต่อให้แม่มาหา เพื่อหาเงินไปไถ่ถอนสร้อยคอและจี้คืน จะได้ไม่ต้องถูกดำเนินคดี