หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้ประสานเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการพิเศษท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เข้าทำการตรวจสอบภาพย้อนหลังจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่บริเวณดังกล่าว จนกระทั่งพบชายต้องสงสัยขณะนั่งปะปนอยู่เป็นผู้โดยสารที่เก้าอี้รอเช็ดอินข้างผู้เสียหาย ก่อนลงมือก่อเหตุล้วงหยิบเอากระเป๋าของผู้เสียหายและเดินหลบหนีไป เจ้าหน้าที่จึงได้นำกำลังออกตรวจสอบโดยรอบอาคารผู้โดยสารขาเข้าและขาออก
จนกระทั่งเวลาประมาณ 00.30 น.วันที่ 21 กรกฎาคม 2560 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้พบชายต้องสงสัยเดินอยู่ภายในอาคารผู้โดยสารขาออก ไม่ไกลจากจุดที่เกิดเหตุมากนัก จึงนำกำลังเข้าจับกุมชายคนดังกล่าวเอาไว้ได้ และทำการตรวจค้นได้พบของกลางเป๋ากระเป๋าสตางค์ของผู้เสียหาย พร้อมด้วยทรัพย์สินอื่น ๆ พร้อมเงินสดสกลุ เยนจำนวน 60,000 เยน, เงินไทย 5,060 บาท, บัตรประจำตัวประชาชน, ใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ และบัตรเอทีเอ็มของผู้เสียหาย อยู่ที่ตัวชายคนดังกล่าว จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำที่ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
จากการสอบสวนทราบว่าชายคนดังกล่าวชื่อ นายยุทธภัณฑ์ ลำภา อายุ 56 ปี ซึ่งเป็นผู้ช่วยไกด์ของบริษัททัวร์แห่งหนึ่ง ได้ให้การรับสารภาพว่า ชายที่ปรากฏในภาพวงจรปิดเป็นตนเองจริงและยอมรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุดังกล่าวจริง โดยจะทำทีนั่งปะปนกับผู้โดยสารภายในอาคารผู้โดยสารขาออก เพื่อสอดส่องดูทรัพย์สินของผู้เสียหายพอสบโอกาสก็จะลงมือก่อเหตุ เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า ลักทรัพย์ในท่าอากาศยานในเวลากลางคืน ซึ่งเป็นความผิดตามมาตร 335 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ก่อนควบคุมตัวไว้เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย