ที่เกิดเหตุเป็นชุมชนขนาดใหญ่ปลูกสร้างด้วยไม้ สูง2ชั้น ปลูกติดกันหลายหลัง มีแสงเพลิงพวยพรุ่งขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ชาวบ้านละแวกนี้ต่างพากันหอบหิ้วข้าวของเครื่องใช้ไฟฟ้า เตาแก๊สหนีตายกันอลหม่าน ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งลากสายยางต่อท่อน้ำหัวแดง ระดมทำการฉีดน้ำ แต่ทว่ามีอุปสรรคซอยคับแคบทำให้ควบคุมเพลิงได้ยาก ประกอบกับมีสายฝนโปรยปรายลงมาตลอด ส่งผลให้เพลิงลุกลามไหม้ไปกว่า 10 หลังคาเรือน
โดยใช้เวลากว่า 45 นาทีเพลิงจึงสงบ ทั้งนี้ยังพบผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 รายทราบชื่อภายหลัง นางนุชนาถ จูบางท่า อายุ 79 ปี เจ้าของบ้านไม่ทราบเลขที่ ได้รับบาดเจ็บถูกไฟคลอก รีบนำส่ง รพ.จุฬาฯ ทางแพทย์ระบุผู้บาดเจ็บถูกไฟคลอกที่ใบหน้าและตามร่างกายไปกว่า 50% ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดสอบสวนทราบว่าต้นเพลิงมาจากบ้านของ นางนุถชนาถ ซึ่งมีอาชีพรับซื้อของเก่า พักอาศัยบ้านไม่ทราบเลขที่เพียงคนเดียว ปกติมักชอบจุดเทียนเพื่อส่งสว่างภายในบ้าน ทั้งที่มีไฟฟ้าใช้ ทำให้ทางชุมชนมาตักเตือนว่าอาจเกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้นได้หลายครั้งแล้ว เนื่องจากในบ้านมีเศษขยะจำนวนมาก จนกระทั่งเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น
เบื้องต้นทางตำรวจยังไม่สามารถระบุสาเหตุได้ต้องทำการประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานมาทำการตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป