น.ส.อรุณรัตน์ (ขอสงวนนามสกุล) เปิดเผยว่า ช่วง 10.00 น. ของวันที่ 9 มิถุนายน ระหว่างที่ลงจากรถแท็กซี่และเดินขึ้นสะพานลอยเพื่อจะเข้าไปทำงานพบว่ามีชายคนหนึ่งผิวขาวรูปร่างสูงผอมยืนอยู่บนสะพานลอยและในมือถือหน้ากากอนามัยแบบผ้า ช่วงแรกก็รู้สึกแปลกใจที่มีคนมายืนอยู่ในจุดดังกล่าวจึงรีบวิ่งหลบหนี ซึ่งชายคนดังกล่าวก็สวมหน้ากากอนามัยก่อนจะวิ่งตามมาและกระโดดเข้าตะครุบตัว ช่วงกลางสะพานลอย โดยชายคนดังกล่าวได้พยายามบีบคอและกดตัวลงกับสะพานลอยระหว่างนั้นได้พยายามร้องขอความช่วยเหลือ จนกระทั่งมีหญิงสูงอายุเดินขึ้นมาจากอีกฝั่งคนร้ายจึงวิ่งหลบหนีไป จากเหตุการณ์นี้ทำให้ตัวเองได้รับบาดเจ็บบริเวณข้อศอกและขาซ้าย ทั้งนี้ยืนยันว่าตัวเองไม่เคยมีปัญหาส่วนตัวกับใครและไม่เคยพบชายคนดังกล่าวมาก่อน อีกทั้งการแต่งกายในขณะเกิดเหตุก็ไม่ได้ล่อแหลมหรือสวมเครื่องประดับของมีค่า ทั้งนี้คาดว่าคนร้ายน่าจะประสงค์ต่อร่างกายไม่ได้ประสงค์ต่อทรัพย์สิน เนื่องจากในระหว่างเกิดเหตุคนร้ายไม่ได้พยายามยื้อแย่งกระเป๋าหรือทรัพย์สินมีค่าของตนเองเลยแม้มีโอกาส ทั้งนี้ตนยังคงหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและเกรงว่าคนร้ายจะกลับมาก่อเหตุกับคนอื่นๆอีก จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ช่วยติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนของสน. ทุ่งสองห้อง เปิดเผยว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดและติดตามบุคคลในภาพสเก็ตซ์ของคนร้ายซึ่งผู้เสียหายให้ปากคำไว้ สำหรับสะพานลอยบริเวณดังกล่าวมีลักษณะเป็นแบบทึบ ทำให้เมื่อเกิดเหตุการณ์ร้ายต่างๆ เกิดขึ้นผู้ที่ขับขี่อยู่บนถนนวิภาวดีรังสิตก็จะไม่ทราบความเคลื่อนไหว และก่อนหน้านี้ในจุดดังกล่าวก็เคยเกิดเหตุการณ์ในลักษณะใกล้เคียงกันเมื่อหลายปีก่อนหน้านี้ด้วย