svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

"อนันต์ อัศวโภคิน" กับข้อหา"ฟอกเงิน" เอื้อประโยชน์ใคร?

05 มิถุนายน 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตั้งคดีสอบสวน อดีตประธานคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น 'ศุภชัย ศรีศุภอักษร' เป็นคดีพิเศษที่ 99/2558 กรณี ศุภชัย กับพวก ร่วมกันนำเงินที่ได้มาจากการฉ้อโกงประชาชน ออกจากสหกรณ์ฯ

ด้วยการสั่งจ่ายเช็คสหกรณ์ฯ นับเป็นพยานหลักฐานเพียงพอให้ดำเนินคดีในความผิดฐาน "สมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน" ดีเอสไอ สรุปสำนวนพร้อมความเห็นควรสั่งฟ้อง ศุภชัย กับพวก ต่อพนักงานอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ
ผลจากการสอบสวน คดีที่ 99/2558 พนักงานสอบสวน พบอีกว่า ศุภชัย ได้สั่งจ่ายเช็คหลายฉบับ จำนวน 275 ล้านบาท แล้วนำไป TAKE OVER บริษัท เอ็ม-โฮม เอสพีวี 2 ซึ่งประกอบธุรกิจรับโอนสินทรัพย์ต่าง ๆ จากบริษัท โมเดอร์น ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)
หรือชื่อเดิมบริษัท เอ็ม-โฮมเอสพีวี 1 จำกัด ได้หุ้น และที่ดิน 3 แปลง 1 ใน 3 มีที่ดินโฉนดเลขที่ 31344 อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี เนื้อที่ 46 ไร่ 3 งาน 56.2 ตารางวา อยู่ทิศตะวันตกวัดพระธรรมกาย ตรงกับสภาธรรมกายสากล
เมื่อซื้อหุ้นแล้ว ศุภชัย ส่งคนของตนเองไปเป็นกรรมการบริษัท มีอำนาจบริหารจัดการอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ซึ่ง ศุภชัย ควบคุมดูแลอีกทีหนึ่ง
21 ธันวาคม 2554 คณะกรรมการบริษัทเอ็ม-โฮม เอสพีวี 2 ที่อยู่ใต้การควบคุม ของศุภชัย มีมติให้นำที่ดินตามโฉนดเลขที่ 31344 ไปขายเพื่อนำเงินมาชำระหนี้
ปรากฎชื่อผู้ซื้อที่สนง.ที่ดิน อ.คลองหลวง คือ อนันต์ อัศวโภคิน ซื้อในราคาไร่ละ 2 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 93 ล้านบาทเศษ ทำสัญญาซื้อขาย ณ สำนักงานที่ดินอำเภอคลองหลวง วันที่ 23 ธันวาคม 2554
พนักงานสอบสวนดีเอสไอ เชื่อว่า อนันต์ ไม่ได้ใช้เงินตัวเองซื้อ แต่เป็นเงินของสหกรณ์ฯ เข้าข่ายช่วยเหลือปกปิด เปลี่ยนแปลงสภาพทรัพย์สิน และเข้าข่ายสมคบกันฟอกเงิน และร่วมกันฟอกเงิน
สำหรับ ราคา 93 ล้านบาท นับว่าต่ำกว่าราคาประเมินถึง 3 เท่า เพราะราคาประเมินที่ดินในขณะนั้นตารางวาละ 15,000 บาท ตามราคาประเมินเนื้อที่ 46 ไร่ 3 งาน 56.2 ตารางวา ราคาควรอยู่ที่ 281 ล้านบาท ทำให้บริษัท ได้รับความเสียหาย และไม่ปรากฏหลักฐานการจ่ายเงินจำนวนดังกล่าวให้บริษัท เอ็ม-โฮม เอสพีวี 2 แต่อย่างใด
ตามข้อมูลของดีเอสไอ ทำให้เราทราบว่า เมื่อปี 2558 อนันต์ ขายที่ดินแปลงนี้ให้บริษัท ๆ หนึ่ง ของนักการเมือง "ป" พรรคการเมืองเก่าแก่ เพียงเอ่ยชื่อคนจะรู้จักทั้งประเทศ ขายในราคา 492 ล้านบาทเศษ
อนันต์ นำเงิน 303 ล้านบาท บริจาคให้กับมูลนิธิคุณยายจันทร์ ขนนกยูง ซึ่งมีธัมมชโย เป็นองค์อุปถัมภ์ ส่วน 108 ล้านบาท ถือไว้ในบัญชีตัวเอง อีก 70-80 ล้านบาท จ่ายให้ค่านายหน้า รวมกับค่าภาษีที่ดิน
มีข้อมูลทางบัญชี อนันต์ พบเพิ่งถอนเงิน 108 ล้านบาท ออกไปจากบัญชี เมื่อเดือนพฤษภาคม เท่ากับว่า ความผิดสำเร็จแล้ว และอนันต์ ก็ได้ประโยชน์จากการซื้อขายที่ดิน ครั้งนี้
ดีเอสไอ ได้หลักฐานสำคัญ อีกชิ้น คือ 'ศุภชัย' ทำหนังสือขึ้นมา ลงวันที่ 23 ธันวาคม 2554 วันเดียวกับไปทำสัญญาซื้อขายที่ดินให้ อนันต์ แสดงเจตนาถวายที่ดินโฉนดเลขที่ 31344 ให้กับธัมมชโย โดย ศุภชัย จะเป็นผู้ซื้อที่ดินของบริษัท และถวายให้ธัมมชโย
โดยจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินในนาม อนันต์ อัศวโภคิน ซึ่งธัมมชโย มอบหมายให้เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์แทน โดยมีแต่ลายมือชื่อของผู้อื่นในเอกสาร แต่ศุภชัย ไม่ได้ลงชื่อ และไม่มีการดำเนินการตามหนังสือฉบับดังกล่าว แต่เปลี่ยนมาดำเนินการผ่านการขายให้ อนันต์ แทน
ดีเอสไอ เห็นว่า ตามพยานหลักฐาน สมควรแยกการสอบสวนเป็นคดีพิเศษที่ 10/2560 พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ และพนักงานอัยการ มีมติร่วมกันให้เรียกตัว นายอนันต์ อัศวโภคิน มารับทราบข้อกล่าวหา "สมคบกันและร่วมกันฟอกเงิน"อนันต์ อัศวโภคิน เจ้าของบริษัทแลนด์ แอนด์ เฮาส์ จำกัด (มหาชน) บริษัท โฮม โปร จำกัด (มหาชน) ธนาคาร แอลแอนด์เอช จำกัด (มหาชน) ฯลฯ
นับเป็นวิบากกรรม สำหรับคนที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับธรรมกาย และ ธัมมชโย

logoline