สอบเครียด! สามีสาวโอเกะ คดีฆ่าหั่นศพ

ความคืบหน้าคดีฆ่าหั่นศพ หลังจากเมื่อเย็นวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้มีชาวบ้าน อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น ไปพบถังบรรจุศพขนาดใหญ่ถูกฝังใต้ดิน และพอนำขึ้นมาพบว่าผู้เสียชีวิตเป็นหญิง ถูกหั่นออกเป็นสองท่อน อายุประมาณ 23 ปี ผมสีดำ ใบหน้ามีรอยบวมช้ำ ที่ลำคอรอยรัดด้วยถุงดำ มีบาดแผลถูกตัดด้วยเลื่อยบริเวณใต้ชายโครงจนขาด ส่วนท่อนล่างมีเชือกจูงสุนัขมัดที่แขนขวา ส่วนแขนซ้ายถูกตัดจนขาดบริเวณข้อศอก ตรวจสอบพลิกศพพบรอยสักภาษาอังกฤษคำว่า "Apichaya Yuntoon"อยู่หลังด้านซ้าย และพบรอยสักตัวอักษรภาษาอังกฤษคำว่า "poppy" อยู่บริเวณหน้าอกด้านขวาโดยผู้ตายจัดอยู่ด้วย
ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าผู้ตายชื่อ น.ส.วริสรา กลิ่นจุ้ย หรือ แอ๋ม เป็นชาวจังหวัดชัยนาท และเมื่อคืนที่ผ่านมาตำรวจได้เชิญตัวสาวหล่อที่เป็นเจ้าของชื่อในรอยสักมาสอบปากคำแต่ไม่พบพิรุธแต่อย่างใด ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด วันนี้ (26 พ.ค.) เวลา 09.00 น. ที่กองกำกับการสืบสวนสอบสวน 3 ตำรวจภูธรภาค 4 ตำรวจได้มีการเชิญตัวนายศักดิ์ชาย บาทเต็มดี อายุ 35 ปี ชาวอ.โพนพิสัย จ.หนองคาย ซึ่งได้แต่งงานและอยู่กินกับผู้ตาย และมีอาชีพเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง โดยได้แต่งงานกันไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ซึ่งภายหลังแต่งงานผู้ตายได้ไปอาศัยกับสามีที่กรุงเทพฯ ก่อนที่ผู้ตายจะขอมาอยู่ที่ขอนแก่นเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา โดยบอกกับสามีว่าจะมาอยู่กับญาติ ซึ่งสามีก็ส่งเงินให้ใช้ระหว่างที่ผู้ตายมาอยู่ขอนแก่น แต่มาทราบภายหลังว่าผู้ตายมาอาศัยอยู่กับสาวหล่อ ชื่อ "ป๊อบปี้" ที่รู้จักกันมาก่อนที่จะแต่งงาน จึงเกิดทะเลาะเบาะแว้งกัน ซึ่งอาจเป็นสาเหตุในการฆาตรกรรมครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม ตำรวจยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง โดยนอกจากการสอบปากคำสามีของผู้ตายแล้ว ยังคงเรียกตัวผู้ที่เกี่ยวข้องมาสอบสวนเพื่อเร่งคลี่คลายคดีให้เร็วที่สุด เนื่องจากเป็นคดีสะเทือนขวัญ
โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา แม่และญาติของผู้ตายก็ได้เดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนเพื่อยืนยันรูปพรรณ และให้ข้อมูลกับตำรวจ ซึ่งยืนยันว่าผู้ตายคือลูกสาวจริง เนื่องจากจดจำรอยสักบริเวณหน้าอกด้านซ้ายได้ เบื้องต้นทราบว่า ผู้ตายเป็นคนชอบคบหาสาวหล่อ ซึ่งทางบ้านก็พยายามบอกให้เลิกคบหา เพราะอยากให้แต่งงานมีครอบครัวเป็นฝั่งเป็นฝา ซึ่งหลังแต่งงานแล้วก็คิดว่าลูกสาวจะอยู่กินกับสามี แต่ก็มาทราบว่าถูกฆาตรกรรม