คนร้ายจี้ชิงกระบะสารภาพ บันดาลโทสะถูกหยามเป็น "ยาม"

ความคืบหน้ากรณีคนร้ายก่อเหตุจี้ชิงรถยนต์กระบะอีซูซุ 4 ประตู สีฟ้า หมายเลขทะเบียน ขข 7886 สงขลา และใช้อาวุธมีดแทง นางอารีย์ บุญยัง อายุ 43 ปี เจ้าของรถบาดเจ็บส่วนลูกสาวอายุ 17 ปีที่นั่งมาด้วยกันปลอดภัย เหตุเกิดที่บริเวณป่าสวนยางบ้านคลองสอง หมู่14 ต.นาทับ อ.จะนะ จ.สงขลา เมื่อวานนี้
และเมื่อช่วงเช้าของวันนี้เจ้าหน้าที่พบรถกระบะคันนี้โดยถูกนำไปจอดไว้ที่ด้านหลังอาคารที่ 2 ของสถานีขนส่งผู้โดยสารอำเภอหาดใหญ่ แห่งที่ 2 หรือคิวรถตู้ตลาดเกษตรแต่จากการตรวจสอบไม่พบวัตถุระเบิดหรือสิ่งของต้องสงสัยตามที่หน่วยงานด้านความมั่นคงได้เฝ้าระวังแต่อย่างใดเพราะเกรงว่าอาจจะเป็นการชิงรถไปทำคาร์บอมบ์ เนื่องจากพื้นที่เกิดเหตุอยู่ใน อ.จะนะ ซึ่งเป็นพื้นที่ด้านความมั่นคง
ต่อมาเมื่อช่วงเที่ยงของวันเดียวกันนี้ตำรวจได้ตามไปจับกุม นายณัฐพงษ์ หวังนุรักษ์ หรือ เล๊าะ อายุ 25 ปี พนักงานรักษาความปลอดภัยโรงแรมแห่งหนึ่ง คนร้ายที่ก่อเหตุ หลังจากที่หนีไปกบดานอยู่ที่บ้านของคู่หมั้นสาวเลขที่ 163 หมู่10 ต.กำแพง อ.ละงู จ.สตูล พร้อมยึดของกลางรวม8 รายการ ทั้งรถยนต์ โทรศัพท์มือถือ ไอแพด มีดปอกผลไม้ยาว4นิ้วครึ่งซึ่งอยู่ในสภาพที่หัก เสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ
และล่าสุดเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว นายณัฐพงษ์ มาสอบสวนขยายผลเพิ่มเติมที่กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจ.สงขลา โดยมี พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เดินทางมาติดตามคดีนี้ด้วยตัวเอง
จากการสอบสวน นายณัฐพงษ์ ให้การว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องเหตุความมั่นคงชิงรถไปทำคาร์บอมบ์แต่อย่างใด แต่จุดเริ่มต้นมาจากอารมณ์ชั่ววูบเท่านั้น โดยตนรู้จักกับนางอารีย์ มาก่อนเพราะมีบ้านพักอยู่ใกล้กัน ก่อนเกิดเหตุได้นัดแนะกันไปขายอาหารเสริมให้กับญาติของตนที่ป่วยเบาหวานใน อ.จะนะ โดยนางอารีย์ พร้อมกับลูกสาวได้ขับรถยนต์กระบะมารับที่หน้าห้างบิ๊กซีหาดใหญ่
แต่ระหว่างทาง นางอารีย์ ได้พูดจาในลักษณะดูถูกเหยียดหยาม ในทำนองว่าเป็นแค่ยามจะได้เงินสักกี่บาท ตนจึงรู้สึกโกรธและบันดาลโทสะ จึงได้ใช้อาวุธมีดปอกผลไม้ที่อยู่ภายในรถ จ้วงแทงนางอารีย์ ไม่ยั้งมือโดยที่ไม่รู้ว่าจะตายหรือไม่ ส่วนสาเหตุที่ชิงรถขับหนีมาเพราะบริเวณเกิดเหตุเป็นที่เปลี่ยวไม่มีรถจึงขับรถกลับมา และนำมาจอดไว้ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารอำเภอหาดใหญ่แห่งที่ 2 และนั่งรถสองแถวกลับไปยังห้างบิ๊กซีเพื่อเอารถจักรยานยนต์ขับไปที่บ้านคู่หมั้นสาวที่จ.สตูล เพื่อตั้งหลักและติดต่อพ่อให้ช่วยประสานงานเข้ามอบตัว และถึงตอนนี้ก็รู้สึกผิดและขอโทษผู้บาดเจ็บเป็นเพียงอารมณ์ชั่ววูบจริงๆ 
ด้าน พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เปิดเผยว่า คดีนี้ไม่ใช่เป็นการจี้ชิงรถเพื่อไปทำคาร์บอมส์แต่มาจากเรื่องส่วนตัวตามที่ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบที่ถูกดูถูกเหยียดหยาม หลังจากนี้ก็จะส่งตัวไปดำเนินคดีที่ สภ.ควนมีด พื้นที่เกิดเหตุในข้อหา ชิงทรัพย์ โดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าในทีนใดนั้นจะใช้กำลังประทุษร้าย โดยมีอาวุธเป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายสาหัส ซึ่งคดีนี้เจ้าหน้าที่ใช้เวลาสืบสวนคลี่คลายคดีภายในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง
สำหรับ นายณัฐพงษ์ ได้หมั้นหมายกับแฟนสาวไว้แล้วและเตรียมที่จะแต่งงานกันในวันที่ 5 สิงหาคมนี้ และระหว่างที่นำตัวมาสอบสวนแฟนสาวพร้อมด้วยญาติได้เดินทางมาเป็นกำลังใจให้ด้วยและพร้อมที่จะให้อภัย