"ศานิตย์" มั่นใจ! จับคนวางบึ้ม รพ.พระมงกุฏได้แน่

เมื่อเวลา 10.45 น. วันที่ 23 พฤษภาคม พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(ผบช.น.) เปิดเผยความคืบหน้าคดีระเบิดภายในรพ.พระมงกุฎเกล้า ว่า เบื้องต้นได้สั่งการมาก่อนหน้านี้ที่มีเหตุเกิดขึ้นได้มีการหามาตรการป้องกันเหตุเกิดขึ้น พร้อมทั้งการสืบสวนติดตามตัวผู้ก่อเหตุ ในวันนี้(23 พ.ค.)จะมีการประชุมเวลา 13.00 น. เพื่อหาว่ามีช่องว่างช่องโหว่อะไรเพิ่มเติมหรือไม่ ขอให้ทุกคนได้ให้ความสำคัญ เป็นเรื่องความรู้สึก ภาพลักษณ์ พยายามจะดำเนินการให้เต็มที่อย่างที่สุด ฝากไปถึงประชาชนปรารถนาช่วยกันสอดส่องเป็นหูเป็นตา จะช่วยเสริมทำงานของเจ้าหน้าที่ได้ ใครรู้เบาะแสก็แจ้งข้อมูลมาให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขอให้ไว้วางใจประเทศไทยเป็นของคนทุกคนไม่ได้เป็นของใคร

เมื่อถามถึงจุดตรวจและเพิ่มมาตรการป้องกันนั้น พล.ต.ท.ศานิตย์ บอกว่า ปกติได้มีการกำหนดเป็นเซฟตี้โซนอย่างน้อยสน.ละ 1 แห่ง แต่เมื่อมีสถานการณ์บางอย่างเกิดขึ้น สถานที่สำคัญในรัศมี 1 กิโลเมตร หรือจะขยายไปมากกว่านั้น ให้ทำเป็นเซฟตี้โซนคือพื้นที่ปลอดภัย การทำให้พื้นที่เป็นพื้นที่ปลอดภัยอย่างหน่วยงานอื่น ทุกคนจะต้องช่วยกัน ทั้งเรื่องการการจัดสายตรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ รวมถึงมาตรการอื่นๆ การขอความร่วมมือ เช่นติดกล้องซีซีทีวี หรืออุปกรณ์เสริมอะไรก็ตาม เพื่อทำให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นเซฟตี้โซน อันนี้เป็นมาตรการนึงได้มอบหมายให้ผู้บังคับการหรือผู้กำกับการที่รับผิดชอบพื้นที่ต้องช่วยกันคิดในพื้นที่ปลอดภัย ถ้าส่งสัญญาณออกไปทุกคนจะต้องเอาใจใส่อย่างแน่นอน กรณีดังกล่าวมีที่ไหนในโลกนี้เขาทำกันที่มาก่อเหตุรุนแรงในโรงพยาบาล

พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวอีกว่า ตนได้สั่งการตั้งคณะพนักงานสอบสวนระดับบช.น.ขึ้นมาแล้ว ส่วนในภาพรวมนั้น พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร.จะตั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดในภาพรวมของทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ขอให้พี่น้องประชาชนไม่ต้องตื่นตระหนก จะพยายามคลี่คลายเรื่องดังกล่าวโดยเร็ว แต่การทำงานเป็นการทำงานในทางลับ แม้แต่ผู้สื่อข่าวเอาข้อมูลบางส่วนไปเปิดเผย ทำให้ฝ่ายตรงข้ามรู้ข้อมูลจะทำให้การทำงานของเจ้าหน้าที่ลำบาก แต่ยังมีความมั่นใจอยู่ว่า จะสามารถคลี่คลายคดีดังกล่าวได้ไม่ช้าก็เร็ว สามารถจับกุมคนก่อเหตุมาดำเนินคดีได้แน่


พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวต่อว่า กรณีแจกันมาวางไว้และมีระเบิดซุกซ่อนไว้นั้น ยังอยู่ระหว่างการประสานขอภาพจากกล้องวงจรปิด แต่ที่จริงเป็นความโชคดีที่บังเอิญไปเจอคนที่ถ่ายภาพก่อนเกิดเหตุไว้ไม่เกิน 5 นาที รายละเอียดขออนุญาตไม่พูด ถ้าเขารู้เรา เราไม่รู้เขา บนพยานเอกสาร แม้แต่วัตถุพยาน เพราะตนเองหวั่นการทำงานใหญ่ ถ้ารีบสรุปโดยปราศจากการตรวจสอบที่ชัดเจนจะกลายเป็นว่าเราทำงานแบบฉาบฉวย ลดกระแส ไม่ได้เอาตัวผู้กระทำความผิดอย่างแท้จริงมาดำเนินคดี ช้าแต่ชัวร์ ขอให้พี่น้องประชาชนแจ้งข้อมูลเบาะแสเข้ามา ไม่ต้องตื่นตระหนกอธิบายความออกไปว่าเป็นเรื่องของความเห็นต่าง เอาผลประโยชน์ของชาติมาทำให้เสียหาย ถ้าเป็นลักษณะเช่นนี้ฝากไปถึงคนที่คิดจะทำอะไร คิดให้ถูก ให้ดี ขอให้เอาประโยชน์ของประเทศชาติมาก่อน

"การเกิดเหตุซ้ำทั้งที่เหตุก่อนหน้า2ครั้งยังจับคนร้ายไม่ได้ กรณีดังกล่าวสิ่งที่ตำรวจทำมันมีรายละเอียด สมมุติรู้ว่าคนนี้ทำผิด แต่พยานหลักฐานซึ่งเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าไปจับคนที่หลักฐานยังไม่ชัดเจน กับมีหลักฐานชัดเจนค่อยจับ อันไหนดีกว่ากัน ตั้งแต่นายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี ผบ.ตร. ก็ให้ความสำคัญ รายละเอียดในทางคดีไม่ขอให้สัมภาษณ์ แต่ยืนยันว่าจะทำงานให้เต็มที่อย่างดีที่สุด" ผบช.น. ระบุ