ออกหมายจับ ดาบตำรวจไขห้องขังช่วยผู้ต้องหาคดียาเสพติดหลบหนี

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตั้งคณะสืบสวนข้อเท็จจริง กรณีผู้ต้องหา 2 ราย หลบหนีออกจากห้องขัง สภ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด เมื่อวันที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมา จากตรวจสอบแล้วพบว่า ทั้ง 2 รายเป็นผู้ต้องหาในคดีมียาบ้าไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย ถูกจับกุม เมื่อ 19 พ.ค.60 อยู่ระหว่างการควบคุมไว้ในห้องควบคุม สภ.โพนทอง โดยให้รายงานผลภายใน 30 วัน และติดตามจับกุมผู้ต้องหา 2 คน และแฟนสาวผู้ต้องหา 2 คน มาดำเนินคดีให้ได้

วันนี้ พนักงานสอบสวน จะยื่นคำร้องต่อศาลขอหมายจับ ด.ต ฉลาด แน่นอุดร สิบเวร หลังจากให้ออกราชการไว้ก่อน ตั้งแต่วานนี้ เพราะจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด ที่โรงพักได้ติดไว้ที่หน้าห้องขัง ได้เรียกตัวสิบเวรห้องขังมาสอบสวน และแจ้ง ข้อหา เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ โดยจะต้องมีการสอบสวนข้อเท็จจริง หากพบว่ามีส่วนรู้เห็นเป็นใจ ปล่อยผู้ต้องหาก็จะเพิ่มข้อหาในการดำเนินคดี ซึ่งต้องรอผลการสอบสวนของคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นต่อไป

พ.ต.อ พันธ์ศักดิ์ อุปพงศ์ ผกก.สภ.โพนทอง บอกว่า ตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่โรงพักได้ติดไว้ที่หน้าห้องขัง พบว่า เป็นเวลา เวลาประมาณ 04.50 น.วันที่ 20 พ.ค 60 มีหญิงสาว ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นแฟนสาวของ 2 ผู้ต้องหาได้เดินเข้ามาที่หน้าห้องขังจากนั้นได้มีผู้ชายใส่เสื้อคอกลมแขนสั้น กางเกงขายาวรองเท้าแตะ เดินมาไขกุญแจห้องขังภายในมีผู้ต้องหา 2 คน จากนั้นได้เดินหายไปจากมุมกล้องและผู้ต้องหาทั้ง 2 รายได้เปิดประตูห้องขังเดินออกมาจากห้องขังอย่างสบายใจ และเข้ากอดกันทั้งคู่

จากนั้นไม่นานผู้ต้องหาทั้ง 2 และหญิงสาวทั้ง 2 คนได้เดินหายไปจากมุมกล้องจนกระทั้งมาพบว่าได้หลบหนีไปแล้วนั้น ได้เรียกตัวมาสอบสวนบันทึกปากคำและสั่งให้ดำเนินคดีในข้อหาเจ้าพนักงานปฎิบัติอหน้าที่มีการทำหน้าที่โดยบกพร่อง และอาจจะละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

จากคลิปที่อาจจดูคล้ายกับ ด.ต ฉลาด แน่นอุดร สิบเวร ที่เป็นผู้ไขกุญแจ ที่ยอมรับผิดว่าเบื้องต้นโดยอ้างว่า ทำการด้วยความประมาทไปหน่อย ไม่มีเจตนาที่จะช่วยเหลือผู้ต้องหา จึงต้องมีการสอบสวนข้อเท็จจริง หากพบว่ามีส่วนรู้เห็นเป็นใจปล่อยผู้ต้องหาก็จะเพิ่มข้อมาในการลงโทษเพิ่มเติม ซึ่งต้องรอผลการสอบสวนของคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นต่อไป