เตรียมสรุปผลสอบ ผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอน วันนี้

รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ประยูร รัตนเสนีย์ บอกว่า ได้รับมอบหมายจาก ปลัดกระทรวงมหาดไทย กฤษฎา บุญราช ให้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีมีผู้กล่าวหาถึงผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ซื้อบริการทางเพศ รวมถึงการบังคับขายประเวณีซึ่งได้ข้อสรุปแล้ว โดยนำรายงานสรุปทั้งหมดส่งให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยพิจารณาวันนี้ ก่อนส่งให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยอีกครั้ง ซึ่งผลการตรวจสอบครั้งนี้ ยืนยันว่า ได้สืบสวนจากทุกฝ่าย โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่มีการข่มขู่แต่อย่างใด

ได้สอบพยานบุคคลรวม 30 ปาก และพยานเอกสารอีกจำนวนหนึ่ง ที่ผ่านการตรวจสอบอย่างรอบคอบทุกขั้นตอน ส่วนจะเชื่อมโยงประเด็นอื่นหรือไม่ ต้องรอปลัดกระทรวงมหาดไทยพิจารณาก่อน เพราะขณะนี้ ไม่สามารถเปิดเผยได้

ขณะที่วันนี้มีเครือข่ายสตรี องค์กรเด็กและเยาวชน เข้าร้องเรียนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำโดย หัวหน้าฝ่ายส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ มูลนิธิหญิงไทยก้าวไกล อังคณา อินทสา บอกว่าการที่ตำรวจภูธรภาค 5 เปิดหน้าพยาน พร้อมทั้งชื่อ หรือชุดคุ้มครองพยาน เมื่อวันที่ 11 พ.ค.ที่กรมคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม เป็นการละเมิดสิทธิชัดเจน เพราะตามหลักการแล้วการคุ้มครองพยานต้องไม่ให้ได้รับผลกระทบ ทั้งการถูกคุกคามในชุมชนที่อยู่อาศัย และขอให้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ เข้าเป็นคณะกรรมการสอบสวนกลางในคดีนี้ เพื่อความโปร่งใส

ผู้ประสานงานเครือข่ายนักกฎหมายเด็กและเยาวชน เตชาติ์ มีชัย บอกว่า ตอนนี้อยู่ระหว่างกระบวนการพิสูจน์ความจริง เพื่อนำคนผิดมาลงโทษ การเปิดหน้าพยานหรือการเอาพยานผู้เสียหายมาเปิดเผย ผิดหลักการคุ้มครองชัดเจน เพราะเจ้าหน้าที่รัฐต้องรักษาสิทธิขั้นพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญ และสร้างหลักประกันความปลอดภัย แม้กระทั่งทุกคำพูดของพยานต้องได้รับการคุ้มครอง ซึ่งไม่เห็นด้วยกับการนำพยานและชุดคุ้มครองมาให้ข่าว เพราะขัดกับหลักการของศาล ขัดกับหลักสิทธิมุษยชน และตามคำสั่งของ สตช. ปี 2548 ก็ระบุชัดเจนว่า ห้ามนำพยานหรือผู้เสียหายในคดีอาญามาแถลงข่าว

และล่าสุดนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ได้กำชับเรื่องนี้เพราะไม่เหมาะสมและไม่ปลอดภัยกับพยาน ซึ่งคดีทางเพศที่เกิดขึ้นกับเด็กและเยาวชน ก็มี พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กจึงอยากให้ สตช.มอบหลักฐานทั้งหมดให้ DSI ดำเนินการ เพราะเป็นองค์กรอิสระ สามารถรับโอนคดีได้อยู่แล้ว และการคุ้มครองพยานก็อยู่ในสังกัดกระทรวงยุติธรรม
ด้านรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.ทรงพล วัธนะชัย ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับพยาน รวมถึงการสอบปากคำในคดีนี้ ไม่อยากให้กังวล และจะนำหนังสือให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้บังคับบัญชาพิจารณา