ประชุมคดีไกด์เถื่อน แจงต้องสอบข้อเท็จจริง พบผลิตภัณฑ์ไม่มีฉลากไทย

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 25 เมษายน พล.ต.ต.ประเสริฐ เงินยวง ผบก.ทท. พร้อมด้วยพ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท.,เจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(สตม.),พนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง,เจ้าหน้าที่กรมการท่องเที่ยวและสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ร่วมกันประชุมติดตามความคืบหน้าดคีที่มีการจับอบรมไกด์เถื่อน ที่โรงแรมโรงแรมแจ๊สโซเทล ถนนประชาอุทิศ แขวงและเขตวังทองหลาง กทม. เมื่อวันที่ 23 เมษายนที่ผ่านมา โดยใช้เวลาในการประชุมกว่า 2 ชั่วโมง
พล.ต.ต.ประเสริฐ กล่าวว่า การประชุมในวันนี้เพื่อเป็นการติดตามผลการดำเนินงานเข้าตรวจสอบการจัดอบรมไกด์เถื่อน ได้มีการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้เมื่อวันที่เจ้าหน้าที่เข้าจับกุมได้ทำการแยกผู้ที่เข้าอบรมออกเป็น2ส่วน คือคนไทย60คน และต่างชาติ ซึ่งมีสัญชาติจีน มาเลเซีย กัมพูชา ลาว และเมียร์มาร์ อีก 78 คน ในส่วนของกรมการท่องเที่ยวได้ทำการตรวจสอบ และสอบปากคำคนไทยไปบางแล้วพบว่าคนไทยที่เข้ามาอบรมมีบัตรประจำตัวมัคคุเทศก์ และทำอาชีพเป็นไกด์แทบทุกคน นอกจากนี้ยังจะต้องทำการสอบปากคำเพิ่มเติมเพื่อหาข้อเท็จจริงของการอบรมในครั้งนี้ ส่วนทางด้าน อย. นั้นได้ทำการตรวจสอบผลิตภัณฑ์ที่ทางผู้เข้าอบรมเอามานำเสนอเพื่อขายให้กับนักท่องเที่ยวนั้นพบว่าเป็นผลิตภัณฑ์ประเภทเครื่องสำอาง3ชนิด และอาหารเครื่องเดื่ม5ชนิด โดยทั้งหมดไม่มีฉลากภาษาไทย อีกทั้งยังต้องตรวจสอบถึงคุณภาพของสินค้าด้วยว่าเป็นไปตามมาตรฐานของ อย.หรือไม่
พล.ต.ต.ประเสริฐ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ในส่วนของการดำเนินคดีได้ดำเนินคดีกับนางสิรินกร ธนชัยพรสกุล อายุ53ปี ผู้จัดงาน และชาวต่างชาติอีก3คน ในข้อหาเป็นนายจ้างที่ว่าจ้างคนงานต่างด้าว โดยนายจ้างไม่ได้ไปขึ้นทะเบียนขออนุญาตใช้แรงงาน, เป็นบุคคลต่างด้างเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต, เป็นบุคคลต่างด้าวประกอบอาชีพโดยไม่ได้รับอนุญาต (มัคคุเทศก์), ทำหน้าที่มัคคุเทศก์ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน และเป็นสินค้าที่ควบคุมฉลากตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค ฉบับที่ 2 ปี 2541 ซึ่งทั้งหมดได้ให้การปฏิเสธ และขอประกันตัวเพื่อต่อสู้ในชั้นศาล ทางด้านพนักงานสอบส่วนก็ได้เร่งตรวจสอบพยานหลักฐานต่างๆเพื่อพิจารณาว่ามีการแจ้งข้อหาเพิ่มอีกหรือไม่