สืบเนื่องมาจากเมื่อเวลา19.00น.วันที่ 17 มี.ค.60 ได้มีนางเอ (นามสมมุติ) อายุ 44 ปี ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นเลขานุการผู้บริหาร บริษัท เบียร์ชื่อดัง ได้ขับรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้าแคมรี สีบรอนซ์เทา (ขอปิดหมายเลขทะเบียน ) มาร่วมงานศพที่วัดด่าน ถนนพระราม3 แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กทม. ต่อมาเวลาประมาณ 20.10 น. วันเดียวกัน กลับมาพบว่าที่กระจกหลังฝั่งซ้ายถูกคนร้ายทุบกระจกลักเอาทรัพย์สินไปหลายรายการ อาทิ โน๊ตบุ๊คยี่ห้อเอสพีอีไลส์บุ๊ค จำนวน 1 เครื่อง พร้อมอุปกรณ์ จำนวน 1 ชุด โน๊ตบุ๊คยี่ห้อเอสพี รุ่นโปรบุ๊คซีรี่ย์ จำนวน 1 เครื่อง พร้อมอุปกรณ์ จำนวน 1 ชุด ฮาร์ดดิสพกพา ยี่ห้อ WD สีดำแดง จำนวน 1 ลูก และกระเป๋าใส่โน๊ตบุ๊คจำนวน 2 ใบ มูลค่ารวมกว่า 60,000 บาท
จากนั้นทางชุดจับกุมได้ออกสืบหาตัวคนร้าย จนกระทั่งทราบว่าผู้ต้องหาร่วมกับนายคเนตร โคกโพธิ์ อายุ32ปีและ น.ส.ชลาลัย น้อยสุข อายุ30ปี ร่วมกันทำการก่อเหตุดังกล่าว จึงออกติดตามจับตัวไว้ได้ พร้อมทรัพย์สินที่คนร้ายอีกรายขโมยมาได้ทั้งหมด ที่ หมู่บ้านเคพีการ์เดนท์ หมู่ 2 ต.คลองสวน อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 20 มี.ค.60 เวลาประมาณ 00.15 น.ที่ผ่านมา ส่วนผู้ต้องหาหลบหนีไปได้ ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้สืบทราบว่า นายโยธิน ได้ไปหลบซ่อนตัวอยู่ที่บ้านไม่มีเลขที่ ซอยบ้านยายคลัง 3 หมู่ 3 ต.ท่าทราย อ.เมืองราชบุรี จ.ราชบุรี จึงนำกำลังตำรวจ กก.สส.บก.น.5 ร่วมกับ บก.สส.บช.น. ตำรวจ ฝ่ายสืบสวน สน.บางโพงพาง และ สภ.เมืองราชบุรี เข้าจับกุมตัวไว้ได้ เมื่อวานนี้(28 มี.ค.)
จากการสอบสวน นายโยธิน ให้การยอมรับสารภาพ ก่อนหน้านี้เคยก่อเหตุลักษณะดังกล่าวมาแล้ว 9 ครั้ง หนึ่งในนั้นเป็นการก่อเหตุยกตู้เซฟในจังหวัดนนทบุรี จนตกเป็นข่าวคึกโครม เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จากนั้นได้มาก่อเหตุดังกล่าว โดยการก่อเหตุทุบกระจกรถทุกครั้งจะเลือกทำเลตามย่านลานจอดรถศูนย์อาหาร ร้านอาหาร และตามงานวัดที่มีรถจอดจำนวนมาก จากนั้นจะเลือกรถเหยื่อที่จอดตามมุมอับไม่มีคนพลุกพล่าน ก่อนจะใช้ไฟฉายที่เตรียมมาด้วยส่องทรัพย์สินที่มีในรถหากพบว่าเหยื่อรายใดเก็บ หรือวางของไว้จะดำเนินการลงมือทุบทันที ก่อนนำทรัพย์สินที่ได้ไปฝากไว้กับนายคเนตร และ น.ส.ชลาลัย ที่เป็นกลุ่มเพื่อนเก่า เพื่อจะให้ลบข้อมูลในโน๊ตบุ๊กเตรียมที่จะไปขายต่อ แต่กลับถูกตำรวจจับเสียก่อนส่วนตนได้พยายามหลบหนีแต่ก็มาถูกจับได้ในที่สุด สำหรับสาเหตุที่ลงมือตระเวนก่อเหตุลักษณะนี้เนื่องด้วยตนติดเล่นการพนันชนิดไพ่และไฮโล ประกอบกับชื่นชอบเที่ยวตามสถานบันเทิงเลาจ์ แล้วนำเงินที่ได้มาเลี้ยงเปย์กลุ่มเพื่อนเสมอ
ทั้งนี้จากการตรวจสอบประวัติพบว่าผู้ต้องหามีประวัติต้องโทษเหตุเกี่ยวกับทรัพย์ในท้องที่ต่างๆ จำนวน 4 ครั้งและมีหมายจับข้อหาเดียวกันอีก3 หมาย 1.หมายจับของศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 54/2560 2.หมายจับศาลจังหวัดเพชรบุรี ที่ 901/2554 และ และหมายจับศาลจังหวัดกาญจนบุรี ที่ มจ.819/2554 อย่างไรก็ตามทางตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อต่อคำให้การต้องทำการสอบสวนขยายผล พร้อมทั้งทำการแจ้งข้อหา ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป