svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

จี้ "บิ๊กตู่" สอบปมทหารวิสามัญ "ชัยภูมิ ป่าแส"

22 มีนาคม 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เอ็นจีโอ-22มี.ค.60- 58 องค์กรเด็กเยาวชน ออกแถลงการณ์ จี้ รัฐบาล-กสม. ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ปมวิสามัญ "ชัยภูมิ ป่าแส"

เมื่อเวลา 16.30 น. ที่โรงแรมเซนทราฯ ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ มูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคมและขายองค์กรเด็กและ 58 องค์กร นำโดยน.ส.เนตรดาว ยั่งยุบล ผู้ประสานงานมูลนิธิฯ ออกแถลงการณ์ กรณีที่ทหารวิสามัญฆาตกรรม นายชัยภูมิ ป่าแส แกนนำเยาวชนชาวลาหู่ ที่ถูกเจ้าหน้าที่ทหารวิสามัญ เมื่อวันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมา ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวได้สร้างความอาลัยและสะเทือนใจแก่เพื่อนนักกิจกรรมทางสังคมเป็นอย่างมาก ทางเครือข่ายจึงขอเรียกร้องความเป็นธรรมต่อการวิสามัญฆาตกรรมวิสามัญนายชัยภูมิ ถือเป็นการกระทำที่โหดร้ายป่าเถื่อนและไร้มนุษยธรรม ขอเรียกร้องต่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี และองค์กรด้านสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.) ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยเร่งด่วน และขอให้หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องด้านความปลอดภัยในชีวิตของผู้ที่เกี่ยวข้อในพื้นที่มีมาตรการและกลไกในการตรวจสอบข้อเท็จจริง และคืนความเป็นธรรมให้กับผู้เสียชีวิต ญาติผู้เสียชีวิต และเพื่อนผู้เสียชีวิตที่ถูกจับกุมคุมขังในขณะนี้อย่างเร่งด่วน อย่างไรก็ตาม เครือข่ายองค์ทำงานด้านเด็กและเยาวชนจะติดตามความคืบหน้าการดำเนินการตรวจสอบตามข้อเรียกร้องและยินดีสนับสนุนการปฏิบัติการที่ดีของบุคคลและหน่วยงานทุกภาคส่วน
นส.เนตรดาว กล่าวต่อว่า ความจริงนายชัยภูมิ ต้องมาร่วมงานมหกรรม การขับเคลื่อนพลังองค์กรทำงานเด็กและเยาวชนเพื่อสร้างพลเมืองเข้มแข็งที่ทางเครือข่ายจัดขึ้นในวันนี้ แต่ก็มาเสียชีวิตเสียก่อน ซึ่งวันที่เสียชีวิตนายชัยภูมิ เพิ่งกลับจากไปขอใบอนุญาตขออกพื้นที่เพื่อเดินทางมางานนี้ ก็เหมือเป็นความผิดของเราที่มีส่วนให้น้องเสียชีวิต ทางเครือข่ายจึงอยากเรียกร้องให้มีการตรวจสอบเรื่องนี้อย่าชัดเจน เพราะชัยภูมิเป็นเยาวชนที่ไม่มีสัญชาต กว่าที่เขาจะกล้าลุกขึ้นมาต่อสู้ในเรื่องชาติพันธ์ของเขา เขาต้องยอมที่จะถูกกดทับจากภายนอก จึงถือว่าเขาเป็นคนที่เสียสละมากคนหนึ่ง แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ก็ยากที่เยาวชนคนอื่นจะลุกขึ้นมาต่อสู้
"ยอมรับว่าทางเครือข่ายมีความกังวลใจอย่างยิ่ง เกรงว่าคดีของนายชัยภูมิ จะไม่ได้รับความเป็นธรรม เท่ากับคนที่มีสัญชาติ จึงอยากวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาสืบข้อเท็จจริง อย่าทำให้เรื่องนี้หายไป"นส.เนตรดาว กล่าว
น.ส.เนตรดาว กล่าวอีกว่า การตรวจสอบของรัฐก็อยากให้มีหลายหน่วยงานเข้าไปช่วยกันดูข้อมูล โดยกรณีนี้ต้องแยกเป็น 2 กรณี คือ 1.กรณีที่ถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ไม่สืบจากข้อมูลเพียงด้านเดียว 2.การกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐกระทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ ต้องเอาหลักฐานมาแสดง มีการถอดสลักระเบิดหรือไม่ และนายชัยภูมิถูกยิงจากด้านหลังจะปาระเบิดใส่เจ้าหน้าที่ได้จริงหรือไม่ เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความสะเทือนใจและความหวาดกลัวให้กับชาวลาหู่เป็นอย่างมาก ซึ่งคนในพื้นที่รู้สึกว่าไม่มีความปลอดภัย เราหวังว่าจะมีความร่วมมือจากหลายหน่วยงานทั้งในและต่างประเทศ เพื่อให้เป็นตัวอย่างของเยาวชนที่ลุกขึ้นมาต่อสู้จะไม่ถูกกระทำในลักษณะเช่นนี้อีก

logoline