svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

"เนวิน" โร่แจ้งความ! มือโพสต์กล่าวหาเป็นเจ้าของบ่อน

20 มีนาคม 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"เนวิน ชิดชอบ" โร่แจ้งตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ เอาผิดมือโพสข้อความอันเป็นเท็จ กล่าวหาเป็นเจ้าของบ่อนในประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้เกิดความเสียหาย ยันไม่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับบ่อนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ขณะ ตร.รู้เบาะแสมือโพส์ตแล้วเตรียมออกหมายเรียกสอบปากคำ

(20 มี.ค.60) จากกรณีที่มีการเผยแพร่ในสังคมออนไลน์ โดยมีข้อความระบุถึงอดีตนักการเมืองชื่อดังคนดัง ที่หลังจากวางมือทางการเมืองแล้วหันมาทุ่มเทกับวงการกีฬาอย่างเต็มที่ ว่า บุคคลผู้นี้เป็นเจ้าของบ่อนการพนันในประเทศเพื่อนบ้านทำให้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง ทั้งมีคนแชร์และเข้าไปแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก
   กระทั่งล่าสุดเมื่อช่วงเช้า วันนี้ 20 มี.ค. นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอล บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อดีตนักการเมืองชื่อดังของจังหวัดบุรีรัมย์ ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.สิริพงษ์ ฤทธิ์ไธสง รอง ผกก.สอบสวน หัวหน้างานสอบสวนสภ.เมืองบุรีรัมย์ ให้ดำเนินคดีกับบุคคลที่เผยแพร่ภาพบ่อนการพนันในประเทศเพื่อนบ้าน และเขียนข้อความกล่าวหาว่า ตนเองเป็นเจ้าของ โดยขอตั้งข้อสังเกตว่ามีการทำกันเป็นขบวนการ มีการจัดทำภาพ และข้อความ ส่งผ่านระบบคอมพิวเตอร์ เจตนาพาดพิงถึงตนให้ประชาชนทั่วไปหลงเชื่อข้อความอันเป็นเท็จ ทำให้ตนได้รับความเสียหาย ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง พร้อมยืนยันว่า เรื่องที่นำมาโพสต์และแชร์กันในสังคมออนไลน์ ไม่เป็นความจริง ตนเองไม่เคยทำธุรกิจใดๆ ในกัมพูชา และไม่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับบ่อนการพนันทั้งในและนอกประเทศ
ขณะที่ พ.ต.ท.สิริพงษ์ ฤทธิ์ไธสง รอง ผกก.สอบสวน หัวหน้างานสอบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ ระบุว่า หลังจากได้รับแจ้งความในกรณีดังกล่าวแล้ว ก็จะทำการสืบสวนสอบสวนหาที่มาของเจ้าของเฟสบุ๊กก่อนว่าเป็นใครซึ่งขณะนี้ก็ทราบเบาะแสของผู้โพส์ตแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ต้องรอตรวจสอบข้อมูลหลักฐานชัดเจนก่อน จากนั้นก็จะออกหมายเรียกมาสอบปากคำตามขั้นตอน ซึ่งการกระทำในลักษณะดังกล่าวถือเป็นการใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สาม ทำให้บุคคลที่ถูกใส่ความได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชังจากบุคคลที่เข้าไปดูในเฟสบุ๊กหรือไลน์ หากผู้ใดที่ได้รับข้อความดังกล่าว แล้วเผยแพร่หรือมีการส่งต่อซึ่งข้อความที่ตนเองทราบอยู่แล้ว ว่าเป็นข้อความหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่เป็นเท็จ จะต้องถูกดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 ฐานเผยแพร่หรือส่งต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับทั้งอาจจะต้องถูกดำเนินคดีในความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาตามประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับด้วย จึงขอประชาสัมพันธ์งดการส่งต่อ เผยแพร่ หรือกดไลค์ ข้อความดังกล่าว เพราะอาจจะมีความผิดด้วย

logoline