รอง ผบช.น. เตรียมออกหมายจับคดีโกงสอบนายสิบตำรวจอีกกว่า 30 ราย

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 27 ม.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผบช.น. ดูแลงานกฎหมายและคดี ฐานะประธานคณะกรรมการดำเนินการรับสมัครและคัดเลือกบุคคลภายนอกเพื่อสอบเป็นนักเรียนนายสิบตำรวจ สังกัดบช.น.ครั้งที่ 3 ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสรุปผลความคืบหน้าการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการโกงการข้อสอบขั้นตอนการสมัครสอบข้อเขียน โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง พล.ต.ต.อดุลย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ครั้งนี้เป็นการประชุมครั้งสุดท้าย โดยเป็นการสรุปจำนวนผู้ที่เข้าสมัครสอบผ่านเป็นตัวจริงจำนวน 1,000 คน ประกาศผู้สอบผ่านคัดเลือกสำรอง 141 คน รวม 1,141 คน จากจำนวนผู้สมัคร 13,285 คน คุณสมบัติไม่ตรงตามประกาศ 10 คน ไม่มาสอบข้อเขียน 1,024 คน ระบายชุดข้อสอบผิด 35 คน ไม่มารายงานตัว 211 คน ตัดสินทหารไป 10 คน ไม่ผ่านการทดสอบร่างกาย 240 คน ไม่มาตรวจจิตวิทยา 5 คน ไม่มาทดสอบสัมภาษณ์เพิ่มเติม 4 คน เป็นผู้ประพฤติเสื่อมเสียโดยนำผลจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) 25 คน สละสิทธิ์การคัดเลือก 25 คน ไม่ผ่านการตรวจร่างกาย 138 คน อย่างไรก็ตาม จะประกาศรายชื่อผู้ที่ผ่านสมัครสอบทั้งหมด 1,141 คน ในวันที่ 30 ม.ค. ผ่านทางเว็บไซต์ทางเว็บไซต์ www.policeadmission.0rg และ http://www.ตำรวจนครบาล.com เพื่อให้มารายงานตัววันที่ 31 ม.ค.ที่สโมสรตำรวจต่อไป เมื่อถามว่า มีการออกหมายจับผู้กระทำความผิดเพิ่มเติมหรือไม่ พล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวว่า เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนสน.พหลโยธินได้มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ก่อนหน้านี้ได้ออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องไปทั้งหมด 52 คน เป็นผู้กระทำความผิดหลัก 1 คน และผู้ที่เป็นมือปืนอีก 51 คน ส่วนรอบที่ 2 ออกหมายจับเพิ่มเติมอีก 30 กว่าคนศาลอนุมัติหมายจับแล้ว ผู้ชักชวนและเป็นผู้ลอกข้อสอบ จะกระบวนการดังกล่าวจะดำเนินการเป็นล็อตๆ หากตรวจสอบพบว่าพยานหลักฐานไปถึงใครที่มีความชัดเจนที่มีการเชื่อมโยงข้อมูลต่างๆ อาทิเช่น ในเรื่องของกระแสการเงินก็จะดำเนินการพิจารณาความผิด เมื่อถามว่า พบความผิดเกี่ยวกับเครือข่ายของนายจิระพจน์ พลายด้วง อายุ 45 ปี เจ้าหน้าที่เทศกิจสำนักงานเขตปทุมวันที่จ้างมือปืนมาสอบนั้น ขณะนี้ตรวจสอบแล้วพบเพิ่มเติมแล้ว แต่ยังไม่ขอเปิดเผย รวมถึงมีสถาบันกวดวิชาด้วย แต่ยังไม่สามารถบอกได้ แต่เกี่ยวข้องหลายด้านทั้งการกวดวิชาและกระทำการทุจริตด้วย โดยได้แจ้งให้มาให้ข้อมูลเพิ่มเติมแล้ว ต้องรอผลสรุปการตรวจสอบให้ชัดเจนก่อน ส่วนมีผู้ก่อเหตุที่ใหญ่กว่านี้อีกหรือไม่ ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ พล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม การทำงานสอบสวนพยานได้สอบปากคำเพิ่มเติม โดยในวันพรุ่งนี้ ได้เตรียมเรียกพยานจำนวน 50 รายมาสอบปากคำเพิ่มเติม โดยเป็นผู้เข้าสอบทยอยเข้ามาเพิ่มเติมและผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติมให้พนักงานสอบสวนหลายสน.ได้แก่ สน.พหลโยธิน สน.สุทธิสาร สน.ห้วยขวาง รวมทั้งในส่วนบก.น.1 แล้วแต่การนัดหมายของพนักงานสอบสวน สน.นั้นๆ ดำเนินการ แล้วนำข้อมูลส่งมารวมไว้ที่ สน.พหลโยธิน ต่อไป เมื่อถามว่า ขบวนการโกงข้อสอบในพื้นที่ บช.น.เกี่ยวข้องกับพื้นที่ บช.ภ.1 อย่างไร พล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวว่า การกระทำผิดในพื้นที่บช.ภ.1 และบช.ภ.7 เป็นฝีมือของบช.น. แต่ทางเราได้ทำการตรวจสอบพบว่า อยู่ในพื้นที่ดังกล่าวก็ส่งข้อมูลกลับไปให้ยังพื้นที่ที่พบการกระทำความผิด ส่วนเป็นเครือเดียวกับพนักงานเทศกิจสำนักงานเขตปทุมวันหรือไม่นั้น ถือว่าเป็นเครือข่ายเดียวกันด้วย แต่มีหลายกลุ่ม ในเครือข่ายทำงานแยกกลุ่มกัน ส่วนของคนที่รู้ตัวว่า กระทำความผิดให้มาสละสิทธิ์การสอบนั้น ยังสามารถเข้าแจ้งความจำนงเพิ่มเติมได้"เพราะถ้ารู้ตัวว่ากระทำความผิด ก็ไม่สมควรเป็นตำรวจ ขณะนี้ตรวจสอบพบทั้งหมดแล้ว ยังอยู่ระหว่างการทยอยขออนุมัติในการออกหมายจับผู้เกี่ยวข้อง ถ้ามาก่อนก็จะทำการสอบปากคำไว้เป็นพยานไว้ ส่วนจะกันไว้เป็นพยานหรือไม่ ต้องทำการตรวจสอบว่าพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง เป็นผลต่อรูปคดีมากน้อยแค่ไหน ก็จะมีวิธีการดำเนินการ แต่จะกันตัวไว้เป็นพยานก็ได้ หรือว่าไม่จำเป็นต้องกันตัวไว้เป็นพยานก็ได้" รอง ผบช.น. กล่าว