svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

จับสองผัวเมีย ตั้งแก๊งหลอกเงินจ่ายหนี้ผ่านตู้เอทีเอ็ม

20 มกราคม 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

กองปราบ รวบ 2 ผัวเมีย ตั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์สุ่มโทรศัพท์ติดต่อไปยังผู้เสียหาย ก่อนออกอุบายหลอกให้ทำธุรกรรมที่ตู้เอทีเอ็ม รู้ตัวอีกครั้งเงินในบัญชีก็ถูกโอนไปเรียบร้อยแล้ว



ที่กองบังคับการปราบปราม เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 19 มกราคม พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป. มอบหมายให้ พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก.2 บก.ป., พ.ต.ต.กรกช ยงยืน สว.กก.2 บก.ป. และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.2 บก.ป. ร่วมกันทำการจับกุม นายเอกลักษณ์ กระแตเซ็ง อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17/1 ม.20 แขวงและเขตมีนบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดมีนบุรี ที่ จ.287/2559 ลงวันที่ 30 มี.ค.59 ในข้อหา "ยักยอก" และ น.ส.สุวิมล ลิ้มรสธรรม อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 188/45 ม.1 ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี สองสามีภรรยา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดกำแพงเพชร ที่ จ.237/2554 ลงวันที่ 5 ส.ค.54 ในข้อหา "ร่วมกัน ฉ้อโกงทรัพย์"สองสามีภรรยา โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่ บริเวณหน้าหอพัก เอสพีแมนชั่น เลขที่ 1/5 ม.3 ต.บางขุนทอง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี

ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อประมาณ ปี 54 น.ส.สุวิมล ผู้ต้องหารายนี้ได้มีร่วมกับพวกซึ่งถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้มีพฤติกรรมตั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์สุ่มโทรศัพท์ติดต่อไปยังผู้เสียหาย ก่อนจะอ้างตนเองว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารต่างๆ และเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ

จากนั้นก็จะออกอุบายหลอกผู้เสียหายว่าผู้เสียหายเป็นหนี้บัตรเครดิต มีข้อมูลทางการเงินผิดปกติขอทำการตรวจสอบข้อมูลทางการเงินโดยด่วน พร้อมกับบังคับให้ผู้เสียหายทำตามขั้นตอนที่ตนเองสั่ง โดยการให้ผู้เสียหายเดินไปที่ตู้เอทีเอ็มจากนั้นก็จะหลอกเหยื่อให้ทำธุรกรรมการเงินที่ตู้เอทีเอ็มเป็น "เมนูภาษาอังกฤษ"โดยแจ้งว่า ทำเพื่อล้างรายการหนี้สิน หรืออาจหลอกให้เหยื่อไปโอนเงินให้หน่วยงานภาครัฐเพื่อตรวจสอบ ซึ่งกว่าที่เหยื่อจะรู้ตัวว่าถูกหลอกเงินในบัญชีก็ถูกโอนเข้าบัญชีผู้ต้องหากลุ่มนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

อย่างไรก็ตามภายหลังจากทราบเรื่องเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ลงพื้นที่สืบหาเบาะแสจนทราบว่าน.ส.สุวิมล นั้นได้หลบหนีมากบดานซ่อนตัวอยู่ในแมนชั่นดังกล่าวจึงนำกำลังไปเฝ้าสังเกตการณ์ ก่อนพบตัวน.ส.สุวิมล พักอาศัยอยู่กับนายเอกลักษณ์ สามี เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าทำการควบคุมตัว พร้อมกับทำการตรวจสอบประวัติของนายเอกลักษณ์ จึงพบว่ามีหมายจับในคดียักยอก ติดตัว จึงควบคุมตัวสองสามีภรรยาผู้ต้องหาตามหมายจับคู่นี้มาทำการสอบสวน


เบื้องต้นจากการสอบสวนสองสามีภรรยาคู่นี้ยังคงให้การปฏิเสธโดยอ้างว่าตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าวที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบประวัติของ น.ส.สุวิมล พบว่า เคยก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายพื้นที่ พร้อมทั้งมีหมายจับในคดีลักษณะดังกล่าวติดตัวอยู่ในพื้นที่ จ.สงขลา อีกหนึ่งคดี รวมมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นจาก น.ส.สุวิมล กว่า 7 แสนบาท เจ้าหน้าที่จึงได้ส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร เจ้าของคดีดำเนินการต่อไป

logoline