นายสนอง สมสิทธิ์ อายุ 54 ปี กำนัน ต.ลาดบัวขาว อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดตลิ่งชัน ที่ 18/2560 ลงวันที่ 14 มกราคม 2560 ในข้อหาใช้จ้างวานให้ผู้อื่น ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย ของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องจำยอมต่อสิ่งนั้น,หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น หรือกระทำการด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกายและให้ผู้อื่นนั้นกระทำการใดให้แก่ผู้กระทำหรือบุคคลอื่น,ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดที่ตนได้กระทำไว้ และลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพหรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย หลังได้ขอเข้ามอบตัวนายสนอง เปิดเผยว่า ตนรู้จักกับพ.ต.อ.อำนวย พงษ์สวัสดิ์ ผกก.สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี อายุ 58 ปี เพียงไม่นานมากนัก จากนั้นช่วงเดือนพฤศจิกายน 2559 ที่ผ่านมา พ.ต.อ.อำนวยได้โทรศัพท์ติดต่อมาหาตนหลายครั้งพร้อมเล่าว่า ไม่พอใจและแค้น น.ส.สุภัคสรณ์ พลไธสง หรือหญิง อายุ 28 ปี ในการพูดจาเหยียดหยามเรื่องชู้สาวผ่านทางเฟซบุ๊ก(มีการพูดถึงอวัยวะเพศเล็กหรือใหญ่) นอกจากนี้ขณะที่น.ส.กรรณิกา กรุมรัมย์ หรือดาว อายุ 38 ปี อยู่กับ พ.ต.อ.อำนวย นั้น น.ส.สุภัคสรณ์ก็จะโทรศัพท์มาหา พ.ต.อ.อำนวย พร้อมระบุว่า"เอาเมียกูมา" และประเด็นปัญหาเรื่องเงินจำนวน 4-5 ล้านบาท จึงได้สั่งให้ตนจัดการฆ่าทิ้ง จากนั้นได้ติดต่อไปทางนายนิวัฒน์ สวยทอง หรือโจ๊ก อายุ 32 ปี ซึ่งนายนิวัฒน์รู้จักกับตนมาประมาณ 1 ปี เนื่องจากนายนิวัฒน์จะช่วยตนในเรื่องการทำคดีต่างๆ จึงตัดสินใจให้นายนิวัฒน์จัดการเรื่องดังกล่าว
นายสนอง กล่าวอีกว่า กระทั่งวันที่ 23 พฤศจิกายน ทาง พ.ต.อ.อำนวย ได้นัดให้มารับเงินงวดแรกจำนวน 40,000 บาท เป็นเงินค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปลักพาตัว น.ส.สุภัคสรณ์ ส่วนงวดที่สองตอนสิ้นเดือนพฤศจิกายน รับเงินจำนวน 60,000 บาท โดยรับเงินภายในโรงพัก และงวดสุดท้ายเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2559 จำนวน 100,000 ซึ่งนัดรับเงินบริเวณร้านกาแฟข้างปั๊มน้ำมันเชลล์ในตลาดบ้านโป่ง โดยเงินก้อนสุดท้ายที่รับมามีสายคาดของธนาคารอยู่ แต่ละครั้งจะรับเงินสดเป็นธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท ทั้งนี้เมื่อตนได้เงินมาก็นำไปในนายนิวัฒน์ โดยที่ตนไม่รู้จักกับบุคลลที่ลงมือก่อเหตุทั้งสิ้น เพราะตนได้ติดต่อนายนิวัฒน์ให้เป็นผู้ดำเนินการตามที่พ.ต.อ.อำนวยสั่งให้ไปลักพาตัว โดยในวันที่ 14 ธันวาคม นายนิวัฒน์ได้โทรศัพท์มารายงานกับตน ว่า จัดการเอาตัวมาให้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งตนไม่ได้ถามถึงรายละเอียดดังกล่าว จึงไม่ทราบว่าน.ส.สุภัคสรณ์เสียชีวิตในวันดังกล่าวหรือไม่ แต่ครั้งนี้ตนรู้ว่าตำรวจต้องการตัวจึงมามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยืนยันว่าผู้ใช้จ้างวานคือพ.ต.อ.อำนวย เนื่องจากตนซึ่งอยู่ในพื้นที่ก็กลัวอิทธิพลจึงรับงานมา
ด้านพล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า นายสนองได้ติดต่อเข้ามอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยจากการสอบปากคำนายสนองให้การเป็นประโยชน์ พบว่า พ.ต.อ.อำนวย ได้คบหาดูใจกับ น.ส.กรรณิกา มาเป็นเวลา 3 ปี ก่อนที่น.ส.สุภัคสรณ์ จะคบหาดูใจกับน.ส.กรรณิกา ปีเศษ อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ทางพ.ต.อ.อำนวยนั้นเกิดความไม่พอใจ ส่วนประเด็นเรื่องยืมเงินจำนวน 4-5 ล้าน เป็นเพียงคำให้การจากพ.ต.อ.อำนวย เพราะทางครอบครัวของน.ส.สุภัคสรณ์ บอกว่า ทางครอบครังยังไม่เคยได้เงิน และยังมีหนี้สินอยู่ สาเหตุจูงใจหลักๆ มาจากเรื่องชู้สาว ส่วนเรื่องอื่นๆ นำมาประกอบเป็นมูลเหตุจูงใจ อย่างไรก็ตามเรื่องจะให้ประกันตัวในชั้นสอบสวนของนายสนองหรือไม่นั้น ต้องให้ทางพนักงานสอบสวนนำตัวไปสอบปากที่สน.หนองค้างพลู นอกจากนี้จะดำเนินคดีกับผู้ให้ที่พักพิงผู้ต้องหาที่เหลืออีก 3 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่พอจะรู้ว่าใครให้ที่พักพิงแล้ว