คุมตัว "โจ๊ก-อุ้ม" ทำแผนขับปาดหน้ารถสาวทอม

ทั้งนี้ ตามแผนประทุษกรรมในวันที่เกิดเหตุคืนวันที่ 13 ธ.ค.59 นายนิวัฒน์ เจ้าของรถได้ขับพาผู้โดยสารที่ร่วมก่อเหตุ อีก 3 คน มี จ.ส.อ.ภาณุเมศวร์ นั่งคู่มาตรงเบาะหน้า ส่วน นายภูมิทัศน์ และ ร.ท.ชัยยุทธ นั่งที่เบาะด้านหลัง วนเข้ามาบริเวณด้านหน้าอาคารเคอาร์แมนชั่น ถนนเพชรเกษม 116 แยก 8 แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม กทม.เพื่อดักรอ น.ส.สุภัคสรณ์ ออกจากร้านอีสาณหมู่เฮา ถนนพุทธมณฑลสาย 4 มาเปลี่ยนชุดที่ห้อง โดยเวียนมาดูถึง 2 รอบ คือ เวลา 19.51 น.จำนวน 1 ครั้ง และเวลา 22.13 น.อีก 1 ครั้ง กระทั่ง น.ส.สุภัคสรณ์ ขี่ รถ จยย.เดินทางมาถึงแล้วขึ้นไปเปลี่ยนชุดเวลาประมาณ 22.23 น. ก่อนย้อนลงมาสตาร์ท รถ จยย.ออกจากลานจอดหน้าอาคารเพื่อมุ่งหน้าไปร้องเพลงต่อที่ร้านได้เพียง 30 เมตร

ทันใดนั้น นายนิวัฒน์ ได้ขับรถเข้าไปปาดหน้า รถ จยย.ของเหยื่อ จนล้ม ก่อนที่ผู้ต้องหาอีก 3 คน จะลงจากรถวิ่งไปหาเหยื่อ พร้อมกับอ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดย นายภูมิทัศน์ ทำหน้าที่ยก รถ จยย.เหยื่อที่ล้มขึ้นมา แล้วเข็นไปจอดไว้ข้างทาง ส่วน ร.ท.ชัยยุทธ และ จ.ส.อ.ภาณุเมศวร์ ช่วยกันอุ้มร่าง น.ส.สุภัคสรณ์ ยัดเข้าไปในห้องโดยสารด้าน หลังจากนั้น ร.ท.ชัยยุทธ และ นายภูมิทัศน์ ได้ขึ้นรถตามไปนั่งประกบเหยื่อซ้ายขวา ทำหน้าที่กดศีรษะเหยื่อให้ต่ำลงตลอดเวลา แล้ว นายนิวัฒน์ ก็ขับรถพาเหยื่อ พร้อมทีมงานทั้งหมดมุ่งหน้าไปพบ นายสามารถ หรือ "จ่ามาศ" แสงสิน อายุ 50 ปี ที่บ้านพักเลขที่ 170/3 ซอยวาสนา ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี

จากนั้นทั้ง นายนิวัฒน์ และ นายภูมิทัศน์ ต่างก็ให้การอ้างว่า หมดหน้าที่และได้ถอนตัวออกจากบ้านดังกล่าวกันทั้งคู่ โดยปล่อยให้ นายสามารถ ร.ท.ชัยยุทธ และ จ.ส.อ.ภาณุเมศวร์ ขังเหยื่อไว้ที่บ้านหลังดังกล่าวเป็นเวลา 1 คืน จากนั้นค่อยมารู้ภายหลัง ว่า ทั้ง 3 คน ได้พาเหยื่อออกจากบ้านพักในวันรุ่งขึ้น เพื่อพามุ่งหน้าไปฆ่าทิ้งและฝังอำพรางคดีในพื้นที่ที่ นายสามารถ จัดเตรียมเอาไว้ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ปักใจเชื่อคำให้การ ของ นายนิวัฒน์ และ นายภูมิทัศน์ แต่อย่างใด จะต้องหาหลักฐานมาพิสูจน์ให้ได้ว่า ทั้งคู่มีแนวโน้มที่จะลงมือทำร้าย หรือล่วงละเมิดเหยื่อหรือไม่ โดยขั้นตอนการทำแผนประกอบคำรับสารภาพนั้นใช้เวลา นานประมาณ 30 นาที

พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า หลังจากทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จสิ้นแล้ว จะพาตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 รายกลับ สน.หนองค้างพลู เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติมอีกนิดหน่อย ก่อนสั่งการให้พนักงานสอบสวน คุมตัว พ.ต.อ.อำนวย และ นายนิวัฒน์ ไปฝากขังเป็นผลัดแรกที่ศาลจังหวัดตลิ่งชันก่อน ส่วน นายภูมิทัศน์ และ น.ส.กรรณิกา ที่ตำรวจเพิ่งได้ตัวมาเมื่อวานนี้ จะควบคุมไว้สอบสวนสักระยะ แล้วค่อยทำการฝากขังในวันพรุ่งนี้ ส่วนการสอบปากคำ น.ส.กรรณิกา เบื้องต้นก็ยังแบ่งรับแบ่งสู้ หากถามคำถามที่ข้องเกี่ยวกับคดีเจ้าตัวจะไม่ขอเอ่ยถึง แต่ก็ยอมรับว่ามีความสัมพันธ์กับ พ.ต.อ.อำนวย มานานแล้วนานๆ จะพบกันสักครั้ง และมีการรับเงินทองเป็นค่าใช้จ่ายด้วย หลังจากนี้ตนเชื่อว่าอาจมีการขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ต้องหาคดีนี้เพิ่มเติมอีกอย่างน้อย 1 ราย แต่ต้องดูพยานหลักฐานที่พบว่าจะเชื่อมโยงไปถึงหรือไม่ ซึ่งตำรวจจะทำงานกันอย่างเต็มที่