เจอแล้ว!...ศพสาวทอมถูกฆ่าฝังดินในรีสอร์ทร้างเมืองกาญจน์

หลังจากเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาลและกองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 7 ได้ข้อมูลจากการให้ปากคำผู้ต้องหาคดีอุ้มสาวทอม น.ส.สุภัคสรณ์ พลไธสง โดยเฉพาะข้อมูลจาก นายนิวัฒน์สวยทอง และนายภูมิทัศน์ พิบูรณ์สวัสดิ์ ผู้ต้องหา ที่ระบุว่า ลักพาตัว น.ส.สุภัคสรณ์ ขึ้นรถกระบะนิสสัน นาวาร่า สีดำ แล้วขับวนออกจากซอยเพชรเกษม 116 แยก 8 มาทางพุทธมณฑลสาย 4 มุ่งหน้าไปอ้อมน้อย เพื่อแวะรับนายสามารถ แสงสิน อดีตตำรวจ สภ.เมือง จ.กาญจนบุรีแล้วมุ่งหน้าไปที่บ้านของ นายสามาราถ โดยกักตัวเหยื่อไว้ 1 คืน ก่อนจะย้ายตัวเหยื่อไปสถานที่อีกแห่ง ซึ่งเป็นรีสอร์ทร้างชื่อ สิตาฌาณา รีสอร์ท ตั้งอยู่ที่ ต.หนองหญ้า อ.เมืองกาญจนบุรีจ.กาญจนบุรี


จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ นำโดย พล.ต.ต.สุธีร์ เนรกัณฐี รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล หัวหน้าชุดสืบสวนสอบสวน พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน กองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล ไปขุดหาร่าง น.ส.สุภัคสรณ์ ที่ถูกฆาตกรรมฝังดินเอาไว้ในรีสอร์ทร้างดังกล่าว

ต่อมาภายหลังขุดดินค้นหานานมากกว่าครึ่งชั่วโมง จึงพบร่างของ น.ส.สุภัคสรณ์ ถูกฝังดินไว้ข้างรีสอร์ทร้าง จึงประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมาร่วมตรวจสอบ เพื่อเก็บหลักฐาน และร่องรอยการถูกทำร้าย เพื่อหาสาเหตุของการเสียชีวิตประกอบสำนวนคดีต่อไป

มีรายงานข่าวระบุว่า สาเหตุที่ทำให้รู้เบาะแสจนนำไปสู่การขุดพบศพสาวทอมในครั้งนี้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนได้บูรณาการระหว่างกองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 7 และกองกำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธร จังหวัดกาญจนบุรี ร่วมกันสืบสวนหาข่าว

หลังจากนำตัวไปชี้จุดบ้านพักของ นายสามารถ แสงสิน อดีตตำรวจ จ.กาญจนบุรี และเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับในคดีดังกล่าว ทำให้ทราบว่าก่อนหน้านี้ นายสามาถเคยไปทำงานรับจ้างตัดหญ้าที่รีสอร์ทดังกล่าว ก่อนจะถูกปิดร้าง ซึ่งคาดหมายว่านายสามารถอาจหลบหนีมากบดานจึงจัดกำลังเข้าตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว พบว่า รีสอร์ทดังกล่าวแบ่งเป็นบ้านพักเรียงกัน 8 หลัง

ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่พบความผิดปกติของดินด้านหลังบ้าน ช่วงระหว่างหลังที่ 2 กับหลังที่ 3เนื่องจากเป็นดินที่เหมือนถูกขุดและกลบใหม่ ต่างจากสภาพพื้นที่โดยรอบบริเวรดังกล่าวจึงดำเนินการขุด เมื่อขุดลึกลงไปประมาณ 1 เมตร ได้กลิ่นศพโชยคละคลุ้งขึ้นมา ก่อนที่จะพบเป็นศพผู้หญิง ทำให้มั่นใจว่าเป็นศพของ น.ส.สุภัคสรณ์ สาวทอมที่ถูกอุ้มหาย จากฝีมือของแก๊งผู้กำกับการ สภ.บ้านโป่ง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายภูมิทัศน์ เป็นหนึ่งในชุดอุ้มน.ส.สุภัคสรณ์ โดยได้ค้าจ้าง 3,000 บาท ส่วน น.ส.กรรณิกา ซึ่งเป็นนักร้องสาวที่ พ.ต.อ.อำนวย ชอบพออยู่นั้นโกรธแค้นที่ผู้ตายปันใจและเอาเงินของตนไปให้สาวอื่น


ต่่อมาเวลา 23.30 น. วันเดียวกัน ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ นายบุญชู พลไธสง อายุ 49 ปี พร้อม นางสมพิศ ตรัยจันทร์แดง อายุ 46 ปี บิดาและมารดา รวมทั้งนางสมคิด พลข่า อายุ 46 ปี น้าสาว และญาติสนิทร่วมกันเดินทางมารอรับศพ น.ส.สุภัคสรณ์ หรือหญิง พลไธสง อายุ 28 ปี

ภายหลังทราบข่าวร้ายจากทางเจ้าหน้าที่ว่าเจอศพถูกฝังดินอยู่ที่ จ.กาญจนบุรี โดยนางสมพิศ อยู่ในอาการโศกเศร้าร้องไห้อยู่ตลอดเวลาจนถึงขั้นเป็นลมล้มฟุบ ทั้งนี้ทางญาติต้องนำยาดมมาป้ายจมูก พร้อมทั้งช่วยกันบีบนวดตัวอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดอันตราย ท่ามกลางบรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า

น.ส.สมคิด กล่าวว่า ตนพร้อมด้วยญาติได้เดินทางไปให้สื่อสัมภาษณ์ตั้งแต่เมื่อช่วงบ่ายจนกระทั่งช่วงหัวค่ำ โดยได้ทราบข่าวร้ายจากทางเจ้าหน้าที่ว่าพบศพเพศหญิงถูกฝังดินอยู่ที่จ.กาญจนบุรี พร้อมทั้งนำภาพถ่ายมาให้ดู เมื่อพบรอยสักที่แขน หลัง และนิ้วมือ จึงเชื่อมั่นได้ว่าเป็นน้องหญิง หลังจากนั้นได้พากันเดินทางไป จ.กาญจนบุรี เพื่อไปดูศพแต่เมื่อเดินทางได้เพียงครึ่งทางก็ได้รับการติดต่อมาจากทางเจ้าหน้าที่อีกครั้งว่าให้มารอรับศพที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ ก่อนพาครอบครัวมากันภายในสถานที่ดังกล่าว

ด้านนายบุญชู กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า ตนเสียใจมากไม่คิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นกับครอบครัว ถ้าตนทำแบบนี้กับครอบครัวคนร้ายบ้างจะรู้สึกยังไง ขอให้คนที่ทำนั้นได้รับกรรมเหมือนกับที่ทำต่อบุตรตน นอกจากนี้ก่อนเกิดเหตุบุตรสาวเคยเล่าให้ฟังว่าเคยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับฝ่ายหญิงจนกระทั่งมาเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว


รายงานข่าวแจ้งว่า ระหว่างที่นายบุญชู กำลังให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนนั้น นางสมพิศ เกิดมีอาการชักเกรงก่อนจะโวยวายเสียงดีงซึ่งจับใจความได้ว่า "ใครทำกู ฆ่ากูทำไม หญิงไปทำอะไรให้มัน อยากฝากสื่อให้ช่วยเสนอข่าวจับคนร้ายมาให้ได้ทุกคน" ซึ่งทางญาติต้องจุดธูป 1 ดอก พร้อมทั้งพูดปลอบใจ และนำพระมาแขวนคอนางสมพิศ จนอาการดีขึ้นกลับมาเป็นปกติ

นอกจากนี้นายบุญชูยืนยันว่า เป็นวิญญาณของน้องหญิงที่เข้ามาสิงร่างมารดาจริง เนื่องจากเป็นคนพูดจาเสียงดังซึ่งต่างจากนางสมพิศ โดยก่อนหน้านี้นางสมพิศอยู่ในอาการโศกเศร้าร้องไห้อยู่ตลอดเวลาสลับกับมีอาการสลบเป็นระยะๆจึงไม่ค่อยมีเสียงที่จะพูดดังได้ถึงขนาดนี้

และจากกรณีที่เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนติดตามค้นหาจนสามารถขุดเจอศพของ น.ส.สุภัคสรณ์ ถูกฝังโบกปูนภายในรีสอร์ท ชื่่อ สิตาฌาณา รีสอร์ท ต.หนองหญ้า อ.เมืองกาญจนบุรี จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป้นรีสอร์ทร้าง โดยสาเหตุที่นำไปสู่การขุดพบศพครั้งนี้สืบเนื่องจาก

พ.ต.ท.ประสงค์ เทพรักษ์ รองผกก.สส.สภ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ที่เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์เช่าพื้นที่รีสอร์ทดังกล่าวจากเจ้าของเดิม เป็นคนนำทีมสืบสวนคดีอุ้มฆ่าสาวทอมไปค้นพื้นที่เกิดเหตุ เพราะติดตามข่าวสารพบว่า

หนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับคดีดังกล่าวมี นายสามารถ โดยเป็นอดีตตำรวจ จ.กาญจนบุรี และรู้จักเมื่อครั้งสมัยที่ตัวเองดำรงค์ตำแหน่งเป็น สว.บก.สส.บช.ภ.7 ระหว่างมาพักอาศัยเพื่อดำเนินกิจการรีสอร์ทปรากฏว่ามีหญ้าขึ้นรก จึงได้วานให้นายสามารถมาทำการถางให้ กระทั่งต้องโอนย้ายมารับตำแหน่งใหม่ที่ สภ.บางไทร รีสอร์ทปิดกิจการและปล่อยทิ้งร้างนานหลายเดือนเพราะไม่มีคนดูแล จึงเกิดความเอะใจหลังตดิตามข่าวสาร เลยแจ้งข้อมูลกับทีมสืบสวนและนำเข้าตรวจค้นพื้นที่ กระทั่งมาพบศพสาวทอมถูกฝังโบกปูนดังกล่าว