
วันที่ 17 พ.ย.59 จ.ส.ต.คมกฤต สิงโต สังกัด สทล.1 กก.8 ตำรวจทางหลวงมอเตอร์เวย์ (จุดพักรถเขาดิน) ซึ่งได้เดินทางเข้ามาตรวจสอบยังในที่เกิดเหตุเป็นคนแรก กล่าวถึง กรณีคนร้ายใช้อาวุธปืนกราดยิงพลเมืองดีที่เข้ามาช่วยเหลือห้ามปราม ในขณะที่ชายหนุ่มใช้กำลังตบตีแฟนสาวต่อหน้าประชาชนที่กำลังสัญจรผ่านไปมาเป็นจำนวนมาก จนถูกรถยนต์ของชาวบ้านพังเสียหาย จำนวน 2 คัน ภายในจุดพักรถเขาดิน ทางหลวงพิเศษสาย 7 มอเตอร์เวย์ กรุงเทพ-พัทยา ว่า
ขณะนี้ ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สภ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ได้ประสานความร่วมมือมายังตำรวจทางหลวงเขาดินแล้ว เพื่อที่จะทำการไล่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ที่มีติดตั้งไว้ตามรายทาง บนถนนมอเตอร์เวย์ โดยเฉพาะที่บริเวณทางออกลงแยกไป อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี นั้น จะสามารถมองเห็นทะเบียนรถทุกคันได้อย่างชัดเจน จึงเชื่อว่าหากคนร้ายที่ก่อเหตุไม่ใช้ทะเบียนรถปลอม หรือสวมทะเบียนมาเชื่อว่าจะหาตัวได้ไม่ยาก โดยในวันนี้จึงต้องไล่ทำการตรวจสอบหาภาพจากกล้องวงจรปิดให้ได้ก่อน
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ มีพยานในที่เกิดเหตุเห็นเหตุการณ์เป็นจำนวนมาก และสามารถจดจำลักษณะรูปพรรณและพฤติกรรมของคนร้ายได้ ซึ่งจะต้องให้ทางพนักงานสอบสวน สภ.บางปะกง ทำการเรียกผู้เห็นเหตุการณ์ ไปสอบสวนหารายละเอียดอีกครั้งจึงจะได้ความชัดเจนมากขึ้น
โดยเหตุการณ์ตามพยานที่เห็นเหตุการณ์ระบุไว้นั้น ทราบว่ารถคนร้ายได้เข้ามาจอดที่บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ ซึ่งเลยไปจากรถของผู้เสียหาย 2 ช่องจอด โดยมีชายหนุ่ม 2 คน ทั้งสองคนนั้นลักษณะการแต่งกายดูดี หรือค่อนข้างมีฐานะ โดยคนก่อเหตุนั้น รูปร่างผอมสูงสวมเสื้อสีดำ ส่วนฝ่ายหญิงก็แต่งกายดูเรียบร้อยไม่โป๊ หรือล่อแหลม ได้มีปากเสียงทะเลาะกันก่อนจะลงมาจากรถ จากนั้นฝ่ายชายที่ลงมือก่อเหตุซึ่งเป็นคนขับได้ลงเดินเข้าไปยังภายในร้านค้าสะดวกซื้อ เพื่อซื้อบุหรี่และหลังออกมา จึงได้มีการลงไม้ลงมือตบตีกัน จนมีคนที่เห็นเหตุการณ์ได้เข้าไปช่วย ขวางไว้และพยายามห้ามปราม จึงทำให้ทางฝ่ายชายเกิดความโมโห ไม่พอใจ ก่อนที่จะพากันไปขึ้นรถและขยับถอยออกมาจอดในลักษณะเตรียมพร้อมที่จะไป จากนั้นชายคนที่ก่อเหตุซึ่งเป็นคนขับจะเดินออกมา พร้อมกับตะโกนว่า "เฮ้ย..พวกมึงเจ๋งกันนักหรือ ถึงมายุ่งเรื่องของชาวบ้าน เรื่องของผัวเมียเขาทะเลาะกัน" โดยมีเสียงเพื่อนชายที่นั่งในรถร้องห้ามว่า "เฮ้ย..มึงจะทำอะไร.. "
ก่อนที่คนร้ายจะใช้อาวุธปืนยิงใส่เข้าไปยังกลุ่มคน จำนวน 4-5 คน ที่ได้เข้ามาขัดขวางห้ามปรามในขณะที่กำลังทะเลาะวิวาทกัน จนทำให้ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างคน ต่างพากันวิ่งหลบหนี หาที่หลบซ่อนและหมอบลง จนกระสุนปืนไปถูกรถยนต์ทั้งสองคันได้รับความเสีย ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะพากันขับรถยนต์เก๋งแบบ 2 ประตู ยี่ห้อ ลัมโบกีนี่ (ตามคำบอกเล่าของพยาน) ลักษณะตบแต่งทั้งคัน สีเขียว หลบหนีไป จ.ส.ต.คมกฤต กล่าว