svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

ฎีกา พิพากษายืนยกฟ้อง"อดีต ผอ.รพ.วชิรปราการ–2 ศัลยแพทย์ร่วมผ่าตัด-อดีต ผจก.รพ."ผ่าตัดเอาไตผู้ป่วย

28 กันยายน 2559
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

นพ.สิโรจน์ กาญจนปัญจพล อดีตแพทย์ รพ.วชิรปราการ จ.สมุทรปราการเดินทางมาฟังคำพิพากษาศาลฎีกา ในคดีขายไตที่พนักงานอัยการคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ฟ้อง กับพวกรวม 4 คน เป็นจำเลยฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นที่ศาลอาญารัชดา ศาลฎีกาพิพากษายกฟ้อง

จบคดีขายไต ศาลฎีกา พิพากษายืนยกฟ้อง"อดีต ผอ.รพ.วชิรปราการ2 ศัลยแพทย์ร่วมผ่าตัด- อดีต ผจก.รพ."ไม่ผิด จัดการเอกสารอุทิศอวัยวะ- ผ่าตัดเอาไต 2 ผู้ป่วยประสบอุบัติรถชนสมองเสียหาย ชี้ ผู้ป่วยแกนสมองถูกทำลาย ตายตามหลักการแพทย์ ขณะที่ทนาย อดีต ผอ.โรงพยาบาล ระบุ 20 ปี ก็ทุกข์ ขณะที่ได้พิสูจน์ทำสิ่งถูกต้อง
ที่ห้องพิจารณา714ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันที่ 28 ก.ย.59 เวลา 10.00 น. ศาลอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีผ่าตัดปลูกถ่ายไต หมายเลขดำ ด.1242/2545 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ และนางหนูแดง ดีโยธากับนายเจริญ ดีโยธามารดาและบิดาของ น.ส.ลัดดา ดีโยธาผู้ที่ถูกผ่าตัดไตออกไป เป็นโจทก์ร่วม ยื่นฟ้อง นพ.สิโรจน์ กาญจนปัญจพลอดีต ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิรปราการ จ.สมุทรปราการ,นพ.วีระเดช เลิศดำรงลักษณ์ ศัลยแพทย์,นายนันทวิทย์ ธงไชย อดีตผู้จัดการ รพ.วชิรปราการ และ นพ.วิวัฒน์ ถิระพานิช ศัลยแพทย์ เป็นจำเลยที่1-4ในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และปลอมเอกสารกับใช้เอกสารปลอม

ฎีกา พิพากษายืนยกฟ้อง"อดีต ผอ.รพ.วชิรปราการ–2 ศัลยแพทย์ร่วมผ่าตัด-อดีต ผจก.รพ."ผ่าตัดเอาไตผู้ป่วย


โดยคดียื่นฟ้องเมื่อวันที่ 25 เม.ย.45 ระบุพฤติการณ์ว่า เมื่อวันที่ 24-26 ก.พ.40 เวลากลางวัน จำเลยร่วมกันปลอมเอกสารหนังสืออุทิศให้อวัยวะของ รพ.วชิรปราการ โดยให้นายเจริญ ดีโยธาและนายสมเกียรติ ตันชนะชัย พ่อและสามีของ น.ส.ลัดดา ดีโยธา ผู้ป่วยอุบัติเหตุรถชน ลงลายมือชื่อไว้ ต่อมาจำเลยที่1และจำเลยที่4ได้ร่วมกันผ่าตัดเอาไตทั้งสองข้างและตับของคนไข้ทั้งสองออกไปและจำเลยที่ 1-2 ยังร่วมกันผ่าตัดเอาไตของนาง นงค์ พรมมา ผู้ป่วยอุบัติเหตุรถชนออกไป ขณะที่คนไข้ทั้งสองยังใส่เครื่องช่วยหายใจและยังไม่ถึงแก่ความตาย เพื่อนำไปปลูกถ่ายอวัยวะให้ผู้ป่วยรายอื่น เป็นเหตุให้คนไข้ทั้งสองถึงแก่ความตาย
ซึ่งศาลชั้นต้น มีคำพิพากษาเมื่อวันที่22ก.พ.48ให้ยกฟ้องจำเลยทั้งหมดเนื่องจากเห็นว่า แม้หนังสืออุทิศอวัยวะ จะมีการเติมข้อความด้วยลายมือว่า"ตับ"ลงในเอกสาร แต่พยานโจทก์ไม่ได้ยืนยันในรายละเอียดว่าเหมือนลายมือของจำเลยที่1จึงมีข้ออันควรสงสัยว่าจำเลยที่1จะเป็นผู้เขียนข้อความดังกล่าวลงในหนังสืออุทิศอวัยวะของคนไข้ จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยนั้นให้แก่จำเลยที่1ในข้อหาปลอมและใช้เอกสารปลอมส่วนในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาโจทก์ไม่มีพยานหลักฐานนำสืบให้เห็นได้ว่า มีการใช้ยาหรือมีการทำโดยประการใดๆ ของพวกจำเลย ทำให้คนไข้ทั้งสองแกนสมองตายโดยเจตนา ข้อเท็จจริงจึงรับฟังได้ว่า คนไข้ทั้งสองถึงแก่ความตายแล้ว ก่อนที่จะมีการผ่าตัดนำอวัยวะ (ไตและตับ) ออกไป

ฎีกา พิพากษายืนยกฟ้อง"อดีต ผอ.รพ.วชิรปราการ–2 ศัลยแพทย์ร่วมผ่าตัด-อดีต ผจก.รพ."ผ่าตัดเอาไตผู้ป่วย


และเมื่อวันที่ 23 ก.ย.53 ศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้ยกฟ้อง ต่อมาอัยการโจทก์และโจทก์ร่วม ยื่นฎีกา
ขณะที่ศาลฎีกา ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือกันแล้ว โจทก์ร่วมฎีกาถึงปัญหาการเสียชีวิตตามกฎหมาย ศาลเห็นว่า การตาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ต้องเป็นการทำให้ตาย แต่ก็ไม่มีกฎหมายใดบัญญัติลักษณะการตายไว้ชัดแจ้ง จึงต้องให้แพทย์เป็นผู้วินิจฉัยการตาย ซึ่งแพทยสภา ออกประกาศเกี่ยวกับการวินิจฉัยโดยมีประเด็นเรื่องแกนสมองถูกทำลายจนสิ้น ไม่สามารถทำให้ระบบหัวใจทำงานได้และร่างกายขาดออกซิเจน หากขาดเครื่องช่วยหายใจ ร่างกายจะขาดการตอบสนอง ซึ่งกรณีของผู้ป่วยทั้งสองแพทย์ได้ตรวจถึง 2 ครั้งทิ้งช่วงเวลาห่างกัน 10 ชั่วโมงพบว่าผู้ป่วยไม่หายใจทั้งสองครั้ง จึงลงความเห็นในบันทึกว่าแกนสมองถูกทำลายโดยสิ้นเชิง และก่อนผ่าตัดอวัยวะวิสัญญีแพทย์ได้ตรวจแล้วผู้ตายไม่หายใจ

ฎีกา พิพากษายืนยกฟ้อง"อดีต ผอ.รพ.วชิรปราการ–2 ศัลยแพทย์ร่วมผ่าตัด-อดีต ผจก.รพ."ผ่าตัดเอาไตผู้ป่วย


การที่จำเลยที่ 1 , 2 และ 4 ร่วมกันผ่าตัดเอาไตออกจากผู้ตายทั้งสองที่อยู่ในสภาวะสมองตายตามการวินิจฉัยของแพทย์ ตามหลักเกณฑ์ของแพทยสภา ถือเป็นการกระทำต่อคนตายแล้ว จึงไม่อาจเป็นการฆ่าได้อีก ที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย พิพากษายืนผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้อัยการโจทก์และโจทก์ร่วมไม่ได้เดินทางมาศาล
ขณะที่ นพ.สิโรจน์ มีคนใกล้ชิดเดินทางมาให้กำลังใจและร่วมฟังคำพิพากษาด้วย ภายหลังฟังคำพิพากษา นพ.สิโรจน์ ปฏิเสธให้ความเห็นเกี่ยวกับคดี มีเพียงทนายความ กล่าวว่า หมอได้พิสูจน์แล้วว่าสิ่งที่ทำถูกต้อง เพราะหมอเรียนมาเพื่อช่วยชีวิตคน ไม่ใช่ทำร้ายคน 20 ปีที่ผ่านมาหมอก็เป็นทุกข์ แต่ศาลได้ให้ความยุติธรรมแล้ว
ด้าน นพ.วีระเดช ศัลยแพทย์จำเลยร่วม กล่าวสั้นๆ ว่า"เรียบร้อยดีครับ"

logoline