เมื่อไปถึงบ้านดังกล่าวในห้องโถงเป็นบ้านปูนชั้นเดียว พบศพนางปิยะภรณ์ ธรรมมิกะกุล อายุ 33 ปี อยู่บ้านที่เกิดเหตุ นั่งพิงตู้โชว์เลือดท่วมตัว อยู่ในชุดนุ่งกางเกงขายาวสีดำ สวมเสื้อยืดคอปกสีชมพู สภาพศพมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืน 11 มม.เข้ากลางหน้าอก 1 นัด ใกล้กันพบร่างนายพรชัย ธรรมมิกะกุล อายุ 35 ปี เจ้าสามีของผู้ตาย ถูกยิงด้วยอาวุธปืนชนิดเดียวกันเข้าศีรษะจำนวน 1 นัด อาการสาหัส เจ้าหน้าที่มูลนิธิจึงรีบนำส่ง รพ.สิชล เพื่อช่วยชีวิต
และในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบอาวุธปืนพกสั้นขนาด 11 มม.ตกอยู่บนพื้นบ้าน จำนวน1กระบอกมีร่องรอยยิงไปแล้วจำนวน 2 นัด ซึ่ง จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน โดยมีนางอัตรา ช่างทอง มารดาของนางปิยะภรณ์อยู่ในที่เกิดเหตุขณะเกิดเหตุการณ์และอยู่ในอาการตกใจสุดขีด
จากการสอบปากคำนางอัตราให้การว่าทราบว่า นายพรชัยเป็นลูกเขยทำงานเป็นช่างเชื่อมรับทำหลังคาโครงเหล็กรายใหญ่ใน อ.สิชล ส่วนนางปิยะภรณ์ ลูกสาวเป็นแม่ค้าขายเสื้อผ้าที่ตลาดสำเพ็งสิชล ใน อ.สิชล อยู่กินมานานหลายปีแล้ว ก่อนเกิดเหตุขณะที่นางปิยะภรณ์เตรียมตัวจะออกจากบ้านไปขายเสื้อผ้าที่ตลาดสำเพ็งสิชล ปรากฏว่านายพรชัยมาหาและทะเลาะกันโดยกล่าวหาว่านางปิยะภรณ์ มีชายอื่นมาติดพัน ทำให้ทั้ง 2 มีปากเสียงกันอย่างรุนแรง ก่อนนายพรชัย ซึ่งอยู่ในอาการหึงหวง และโกรธจัดได้ชักอาวุธปืนที่พกมายิงใส่นางปิยะภรณ์ เข้าหน้าอก 1 นัด ตายคาที่ ก่อนจะใช้ปืนกระบอกเกียวกันยิงตัวเองจนฟุบได้รับบาดเจ็บสาหัส ด้วยความตกใจจึงรีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบในเวลาต่อมา
ด้าน พ.ต.อ.โชคดี รักษ์วัฒนพงษ์ ผกก.สภ.สิชล เผยว่า สาเหตุ มาจากความหึงหวง ซึ่งนายพรชัย ระแวงว่านางปิยะภรณ์ ผู้ตายไปมีชายอื่น และเคยมีปากเสียงทะเลาะกันเป็นประจำล่าสุดก็มีปากเสียงกันเรื่องที่ผู้ตายเล่นเฟซบุ๊คคุยกับชายคนหนึ่ง ก่อนนายพรชัยจับได้และทำลายโทรศัพท์มือถือของนางปิยะภรณ์ฯ พังไป 1 เครื่องเพราะความหึงหวง กระทั่งมาก่อเหตุสยองดังกล่าว
อย่างไรก็ตามอาการของนายพรชัยยังสาหัส อยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด ซึ่งทางตำรวจได้อายัดตัวไว้ดำเนินคดีตามกฏหมายแล้ว ส่วนศพ