ได้ร่วมกันจับกุม นายอำนาจ นิ่มเขียว อายุ 48 ปี ผู้ต้องหาวิ่งราวทรัพย์ร้านโรตีสายไหม เมื่อวันที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยผู้ต้องหาทำทีเป็นลูกค้ามาซื้อของ ก่อนจะ่อาศัยจังหวะแม่ค้าเผลอหยิบกระเป๋าแล้วขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป ซึ่งภายในกระเป๋ามีสร้อยคอทองคำ 3 เส้น น้ำหนักรวม 5 บาท และแหวนทอง 2 วงหนักรวม 2 สลึง พร้อมเงินสดอีก 60,000 บาท
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนติดตามจากกล้องวงจรปิดในเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี จำนวน 20 จุด ระยะทางกว่า 30 กิโลเมตร จนได้ภาพรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า คลิ๊ก สีขาว ทะเบียน ขทจ 55 สุพรรณบุรี ซึ่งรถของคนร้ายและตรวจสอบ ก็พบว่าเป็นของนายอำนาจ นิ่มเขียว อายุ 48 ปี หลังตรวจสอบประวัติพบว่านายอำนาจ เคยก่อคดีลักษณะนี้มาก่อนในท้องที่ สภ.ปลายบาง และ สภ.บางเสาธง ในจังหวัดสมุทรปราการ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้สืบสวนติดตามพบตัวนายอำนาจ นิ่มเขียว โดยนายอำนาจ ให้การยอมรับว่า เป็นคนร้ายที่ก่อเหตุจริง และได้พาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจยึดทรัพย์สินของผู้เสียหาย และเสียผ้าที่สวมใส่ในวันเกิดเหตุได้ที่บ้านพักในเขตอำเภอเมืองปทุมธานี
โดยมีของกลางที่ตรวจยึดเป็นรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า คลิ๊ก สีขาว ทะเบียน ขทจ 55 สุพรรณบุรี พร้อมด้วยสร้อยคอทองคำ 3 เส้น และกางเกงยีนส์ที่ผู้ต้องหาสวมใส่ในวันก่อเหตุ เสื้อคลุมสีเหลืองครีม หมวกกันน็อค 1 ใบ และกระเป๋าสะพายสีแดงพร้อมเอกสารของผู้เสียหายที่ผู้ต้องหาขโมยไปจากผู้เสียหายเป็นเงินสดอีก 6,040 บาท ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ทำประวัติและได้นำตัวผู้ต้องหา พร้อมด้วยของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.สามโคก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบสวนทราบว่า นายอำนาจ มีลูกต้องเลี้ยงดู 7 คน และเมียอีก 3 คน พร้อมมีโรคประจำตัวเป็นเบาหวานความดัน ต้องการเงินไปใช้จ่ายในครอบครัว และรักษาตัวเองจึงเป็นเหตุในการก่อคดี
ด้าน น.ส.จิราพร อ่อนนวล อายุ 24 ปี หลานสาวเจ้าของร้านโรตีสายไหม กล่าวว่า วันที่เกิดเหตุตนเป็นคนเฝ้าร้าน เมื่อมีคนร้ายเข้ามาทำทีมาซื้อโรตีสายไหม พร้อมสั่งให้ตนทำก๋วยเตี๋ยว จากนั้นคนร้ายเข้าไปหยิบกระเป๋าเก็บเงินของน้าสาว เมื่อตนเห็นก็จะเข้าไปแย่ง คนร้ายก็ผลักจนตนล้มลงกับพื้น จากนั้นคนร้ายได้ขี่จักรยานยนต์หลบหนีไป ต่อมาได้แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเจ้าหน้าที่ได้ให้ตนเองนั่งดูภาพกล้องวงจรปิดจนกระทั่งพบภาพของคนร้าย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ติดตามจากภาพที่ตนเองพบ และสามารถจับกุมคนร้ายได้ในที่สุด
นางมาลัย อ่อนนวล อายุ 35 ปี เจ้าของร้านโรตีสายไหม กล่าวว่า เมื่อวันเกิดเหตุหลังจากแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วไม่รู้จะไปพึ่งใครต่อ เห็นมีหลวงพ่อโสธรองค์ใหญ่ที่ศาลหน้าโรงพัก จึงเข้าไปกราบและได้บนบานขอพรไว้ว่า หากเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมคนร้ายได้ตนเองจะมาแก้บนด้วยไข่ไก่100ฟอง วันนี้ตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายได้ถึงจะได้ของที่ถูกชิงไปไม่ครบ แต่ก็อยากจะชมเชยตำรวจ สภ.สามโคก เป็นอย่างมากที่ทำงานได้ดีมากจับคนร้ายได้เร็ว ทั้งที่มีข้อมูลน้อยมาก ทุกท่านทำงานอย่างเต็มที่ ทำให้เราได้ทรัพย์สินคืนมาได้ไวขนาดนี้ ตนเองอยากจะฝากให้พ่อค้าแม่ขายทุกท่านระวังคนร้ายลักษณะนี้เมื่อเกิดขึ้นกับตนเองแล้วก็ไม่อยากให้เสียใจทีหลัง ให้ระมัดระวังเพราะว่ามิจฉาชีพมีเยอะมาในรูปแบบของลูกค้าทุกคน ทั้งนี้อยากจะบอกว่าอย่าใช้คำว่าโง่เลยนะ เพราะคนเรามีโอกาสที่จะลืม มีโอกาสพลาดกันได้ครั้งนี้เป็นบทเรียนราคาแพงมากที่ตัวเราเองพลาดและลืมกระเป๋าเงินทิ้งไว้