เมื่อไปถึงพบว่าสถานที่ดังกล่าวเป็นบ้านเดี่ยวสูง 2 ชั้น เลขที่ 45/5 ปลูกอยู่บนพื้นที่ประมาณ 1 ไร่เศษ รวม 3 หลัง มีสระว่ายน้ำในตัว บริเวณลานจอดรถพบรถยนต์ยี่ห้อหรูจอดเรียงรายกันอยู่นับ 10 คัน ส่วนในบ้านหลังแรกพบว่า มีการนำถุงพลาสติกสีดำมาปิดทับไว้ตรงกระจกใสข้างประตูทางเข้า เพื่อไม่ให้คนภายนอกมองเข้าไปเห็นด้านใน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงให้ผู้ดูแลสถานที่ทำทีไปเคาะประตูเรียก เมื่อมีคนมาเปิดกำลังตำรวจนับ 10 นายที่ซุ่มอยู่ใกล้เคียง จึงบุกกรูเข้าไปพร้อมกับสั่งให้กลุ่มวัยรุ่นชาย-หญิง จำนวน 18 คน อายุระหว่าง 17-25 ปี กำลังนั่งดื่มสุรา และเปิดเพลงเต้นรำกันอย่างสนุกสนาน โดยชาย-หญิงบางส่วนได้แยกออกไปพรอดรักกันภายในห้องหับส่วนตัว แต่พอเห็นตำรวจต่างพากันตื่นตกใจและพยายามจะหาทางหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่บล็อคทางเข้า-ออกไว้หมดแล้ว จึงไม่มีใครเล็ดรอดไปได้แม้แต่คนเดียว เบื้องต้นจึงสั่งให้ปิดเพลงและคุมตัวมารวมกันที่บริเวณห้องโถง พร้อมกับทำการสุ่มตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด พบว่ามีฉี่สีม่วงจำนวนหนึ่ง จากการตรวจค้นพบของกลางยาเคชนิดผงและน้ำ รวมถึงยาเคจำนวนหนึ่ง ถูกทิ้งไว้ที่พื้น และไม่มีใครยอมรับว่าเป็นเจ้าของ ส่วนในห้องครัวพบร่องรอยคล้ายมีการนำยาเคชนิดน้ำไปอบในตู้ไมโครเวฟเพื่อความร้อนทำปฏิกิริยาทางเคมีให้กลายเป็นผง จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบปากคำ น.ส.กอแก้ว วงษ์ษา อายุ 21 ปี ให้การอ้างว่า ตัวเป็นหลานสาวของสมาชิกสภาจังหวัดคนหนึ่งใน จ.เชียงราย แต่มาพักอาศัยอยู่กับญาติที่เมืองพัทยา ก่อนหน้านี้ได้นัดเพื่อนๆ กลุ่มหนุ่มสาวซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกหลานข้าราชการ และนักธุรกิจทั้งในพื้นที่ จ.ชลบุรี และกรุงเทพมหานคร เดินทางมาเที่ยวที่เมืองพัทยา ก่อนพากันมาเช่าบ้านหรูดังกล่าวซึ่งเป็นของชาวต่างชาติ ในราคาคืนละ 25,000 บาท เพื่อจัดปาร์ตี้ฉลองวันเกิดให้กับตน และมีการดื่มสังสรรค์กันตามปกติ ส่วนยาเสพติดที่พบไม่ทราบว่าเป็นของใคร
ด้าน พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีกลุ่มวัยรุ่นรวมตัวกันจัดปาร์ตี้ยาเสพติดกันในหมู่บ้านดังกล่าว จึงสั่งการให้ชุดสืบสวนประสานตำรวจ สภ.ห้วยใหญ่ นำกำลังบุกไปจับกุมดังกล่าว ในส่วนของผู้ที่มีสารเสพติดในร่างกาย จะได้ส่งตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมกับสอบสวนว่าใครเป็นเจ้าของยาเสพติดที่พบในที่เกิดเหตุ และจะได้ขยายผลหาที่มาของยาเสพติด เพื่อติดตามจับกุมเอเย่นต์ที่จำหน่ายให้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป