svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

ชำแหละ "นักโทษวีไอพี" อิสรภาพที่แลกได้ของ"นักการเมือง-คนดัง"?

01 กันยายน 2559
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

กลายเป็นเรื่องใหญ่ที่หลายฝ่ายให้ความสนใจ ข้องใจ และต้องการคำชี้แจงที่ชัดเจน หลังจาก "สมชาย แสวงการ" สมาชิก สนช.โพสต์เฟซบุ๊กเปิดโปงแฉข้อมูลว่า มีนักโทษคดีดังหลายรายไม่ถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำ แต่กลับนอนโรงพยาบาล จากสาเหตุอาการป่วยคล้ายๆ กัน อาทิ "เสี่ยเปี๋ยง" อภิชาติ จันทร์สกุลพร ในคดียักยอกข้าวของรัฐ รวมถึงนักโทษในคดีธนาคารกรุงไทย, คดี กกต. และคดีทุจริตปุ๋ย โดยให้คำนิยามคนเหล่านี้ว่า คือ "นักโทษวีไอพี"

นอกจากนี้ สนช.คนดังยังโยนระเบิดลูกใหญ่ว่า คนกลุ่มนี้บางคนยังไม่เคยลิ้มรสห้องขังรวมแดนไหนสักแดน เพราะทันทีที่ลงจากรถผู้ต้องขังเข้าเรือนจำก็ตรวจร่างกายและพบว่าป่วยหมดครบทุกราย โดยทุกคนแค่มีใบรับรองแพทย์อ้างว่า ป่วยนั่นนี่โน่น ตั้งแต่ความดันสูง เบาหวาน หยุดหายใจขณะหลับ หัวใจ จนถึงมะเร็ง ฯลฯ แต่ทันทีที่ก้าวพ้นจากเรือนจำมาอยู่ที่โรงพยาบาลก็สั่ง "หูฉลาม" มากินฉลองในโรงพยาบาลอย่างไม่มีความอาย จึงขอเรียกร้องให้ "บิ๊กต๊อก" พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ตรวจสอบความโปร่งใสของกรมราชทัณฑ์อย่างเร่งด่วน

ชำแหละ "นักโทษวีไอพี"
อิสรภาพที่แลกได้ของ"นักการเมือง-คนดัง"?

"สมชาย แสวงการ"
จากประเด็นดังกล่าว "ชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ" ปลัดกระทรวงยุติธรรม ต้องออกมาชี้แจงเป็นพัลวันว่า เรื่องการส่งนักโทษไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลต่างๆ เป็น "ดุลพินิจ" ของผู้บัญชาการเรือนจำที่ต้องพิจารณาตามความเห็นของแพทย์ที่รักษา แต่ตอนนี้ได้กำชับไปยังอธิบดีกรมราชทัณฑ์ให้เข้มงวดตรวจสอบการใช้ดุลพินิจของ ผบ.เรือนจำในการส่งตัวผู้ต้องขังไปรับการรักษาในโรงพยาบาลต่างๆ รวมถึงจะกำหนดหลักเกณฑ์เพื่อให้ ผบ.เรือนจำใช้ประกอบดุลพินิจในการรับตัวผู้ต้องขังเข้ามาในแดนพยาบาล เนื่องจากระเบียบที่มีอยู่เดิมกำหนดหลักเกณฑ์ไว้เพียงกว้างๆ จึงจำเป็นต้องควบคุมเพื่อให้รัดกุมมากขึ้น
"ผมขอให้กรมราชทัณฑ์และผบ.เรือนจำตรวจสอบใบรับรองแพทย์ที่ระบุอาการป่วยของผู้ต้องขังด้วย ทั้งนี้กระทรวงยุติธรรมยืนยันว่าเคารพในดุลพินิจของแพทย์ แต่เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและรัดกุมจึงจำเป็นต้องตรวจสอบใบรับรองแพทย์ที่นำมาประกอบการรักษาพยาบาลด้วย ส่วนกรณีที่นายสมชายระบุว่า เสี่ยเปี๋ยงสั่งหูฉลามมากินฉลองที่โรงพยาบาลนั้น จะขอไปตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน แต่ตอนนี้เสี่ยเปี๋ยงถูกย้ายจากโรงพยาบาลตำรวจมาอยู่ที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์แล้ว"

ชำแหละ "นักโทษวีไอพี"
อิสรภาพที่แลกได้ของ"นักการเมือง-คนดัง"?

"ชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ"
สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร เพราะโดยหลักเกณฑ์ของกรมราชทัณฑ์ระบุไว้ชัดเจนว่า นักโทษทุกคนที่มีอาการเจ็บป่วยถึงขั้นรุนแรงก็มีสิทธิย้ายมารักษาตามโรงพยาบาลรัฐต่างๆ เพื่ออยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดมากขึ้น แต่สาเหตุที่เป็นเรื่องใหญ่โต เพราะทุกครั้งที่เกิดประเด็นร้อนดังกล่าวขึ้นมา จะเห็นได้ว่านักโทษกลุ่มที่ได้รับสิทธิเช่นนี้ส่วนใหญ่จะเป็น "นักการเมือง คนดัง และผู้มีอิทธิพลมากบารมีกันทั้งนั้น" ดังนั้นด้วยเหตุนี้จึงเป็นที่มีของคำว่า "นักโทษวีไอพี"

ชำแหละ "นักโทษวีไอพี"
อิสรภาพที่แลกได้ของ"นักการเมือง-คนดัง"?

"เสี่ยเปี๋ยง"อภิชาติ จันทร์สกุลพร
สำหรับนักโทษที่ถูกเรียกขานว่า "วีไอพี" หากย้อนไปดูก่อนหน้านี้ก็มีให้เห็นไม่ใช่น้อย อาทิ สมชาย คุณปลื้ม หรือ "กำนันเป๊าะ" เจ้าพ่อแห่งภาคตะวันออก ถูกจองจำในเรือนจำในคดีทุจริตที่ดินเขาไม้แก้ว แต่ด้วยสาเหตุทางสุขภาพจึงถูกนำมารักษาตัวที่โรงพยาบาลชลบุรี โดยคราวนั้นมีข่าวลือออกมาเป็นระยะๆ ว่า กำนันเป๊าะแวบออกมาพักฟื้นอยู่ที่บ้าน แถมลูกหลานยังจัดการวันเกิดให้ แต่ทุกอย่างก็เป็นเพียงข่าวลือที่ลอยลม

ชำแหละ "นักโทษวีไอพี"
อิสรภาพที่แลกได้ของ"นักการเมือง-คนดัง"?

สมชาย คุณปลื้ม หรือ "กำนันเป๊าะ"
หลังจากเกิดเรื่อง "กำนันเป๊าะ" ถูกย้ายจากโรงพยาบาลชลบุรีมารักษาตัวที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ แต่ปัจจุบันถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจ เนื่องจากมีอาการหยุดหายใจขณะหลับ ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ไม่มีแพทย์เฉพาะทางและอุปกรณ์ช่วยชีวิต
นอกจากนี้ยังมี "ร.ท.สุชาย เชาว์วิศิษฐ" ที่ป่วยเป็นมะเร็ง ต้องถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลรามาธิบดี "พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ" และ "ปริญญา นาคฉัตรีย์" อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีอาการป่วยเป็นโรคประจำตัวปกติของคนสูงอายุ และถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ หรือแม้กระทั่ง "พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธ์ุ" เคยถูกส่งตัวไปทำบายพาสหัวใจ และถูกส่งตัวกลับไปคุมขังที่เรือนจำกลางคลองเปรม

ชำแหละ "นักโทษวีไอพี"
อิสรภาพที่แลกได้ของ"นักการเมือง-คนดัง"?

"พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ"
ไม่เพียงเท่านี้ ที่ผ่านมายังมีนักโทษหลายคนที่ได้รับสิทธิพิเศษในด้านอื่นอีกเช่นกัน จนเป็นข้อข้องใจของสังคม โดยข้อสงสัยลักษณะเดียวกันเกิดขึ้นกับกรณีของ "ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์" อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครักประเทศไทย ที่สร้างความประหลาดใจอย่างมาก เมื่ออยู่ดีๆ นายชูวิทย์ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยผู้คุม หลังจากติดคุกมาเพียงไม่กี่เดือนในคดีรื้อบาร์เบียร์ ถนนสุขุมวิท ในปี 2546

ชำแหละ "นักโทษวีไอพี"
อิสรภาพที่แลกได้ของ"นักการเมือง-คนดัง"?

"ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์"
คดีนี้ "ชูวิทย์" ถูกศาลตัดสินจำคุกเป็นเวลา 2 ปี เมื่อเดือนมกราคม ที่ผ่านมา แต่เมื่อเดือนมิถุนายนปรากฏภาพ "ชูวิทย์" ในชุดผู้ช่วยผู้คุมแพร่กระจายในโซเชียลมีเดีย
คำอธิบายของปลัดกระทรวงยุติธรรมในเรื่องนี้ คือ "นายชูวิทย์ได้รับการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ เพราะได้รับการจัดให้เป็นนักโทษที่มีระเบียบวินัยและได้ทำตามที่ได้เคยสัญญาไว้เมื่อตอนรับโทษ"
แม้กระทั่ง "เอ๋" ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม อดีตนายก อบจ.สมุทรปราการ นักโทษที่จะได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำจังหวัดสมุทรปราการ ทั้งๆ ที่รับโทษยังไม่ครบตามที่ศาลมีคำพิพากษาจำคุก 1 ปี 6 เดือน เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ในคดีทุจริตในการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลนครสมุทรปราการในปี 2542
คำอธิบายของกรมราชทัณฑ์ในวันต่อมา คือ ผู้บัญชาการเรือนจำคือผู้มีอำนาจในการเสนอชื่อนักโทษให้อยู่ในข่ายพ้นโทษในโอกาสสำคัญๆ แต่คำอธิบายดังกล่าวกลับไม่ได้ทำอะไรให้ดีขึ้น แถมยังโดนสังคมตั้งคำถามกลับไปว่า ทำไมต้องเป็น "ชนม์สวัสดิ์" นักการเมืองที่มีอิทธิพลมากที่สุดใน จ.สมุทรปราการ

ชำแหละ "นักโทษวีไอพี"
อิสรภาพที่แลกได้ของ"นักการเมือง-คนดัง"?

"เอ๋" ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม
แม้เหตุผลต่างๆ ที่ปลัดกระทวงยุติธรรม และกรมราชทัณฑ์ ออกมาชี้แจง จะไม่ค่อยเข้าหูประชาชน แต่จะทำอย่างไรได้ เมื่อกฎหมายเปิดช่องให้ทำได้ ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจ หากในภายภาคหน้าเราจะได้เห็นเหตุ "นักโทษวีไอพี" เหล่านี้อีกอยู่เรื่อยไป หากทุกอย่างขึ้นอยู่กับ "ดุลพินิจ"
จริงๆ แล้วชีวิต "หลังกำแพงคุก" ไม่ได้เลวร้ายอะไรมากมาย แม้จะถูกจำกัดอิสรภาพ แต่ทางราชการยังคงสิทธิบางอย่างให้นักโทษได้ใช้ชีวิตเกือบเป็นปกติ และถ้าจะวัดจากมาตรฐานของเรือนจำกลางคลองเปรม นอกจากการขาดอิสรภาพแล้ว ชีวิตความเป็นอยู่ของนักโทษส่วนหนึ่งก็อาจไม่ได้ยากลำบากเหมือนที่คนทั่วไปคิด โดยเฉพาะเรื่องอาหารการกิน
แม้กระทั่งอาหารและผลไม้ตามฤดูกาล ขนมหวาน หรือกระทั่งพิซซ่า ซึ่งบางครั้งคนหาเช้ากินค่ำที่อยู่ข้างนอกกำแพงคุก แทบไม่ได้มีโอกาสได้ลิ้มรสได้บ่อยครั้งนัก แต่ "พิซซ่า" ไม่ใช่สิ่งที่หายากในเรือนจำ เพราะทีมข่าว "Primetime" เคยสำรวจและไปพิจารณาเครื่องเอกซเรย์ตรวจสอบอาหารและสิ่งของของเรือนจำกลางคลองเปรม พบว่าเป็นส่วนหนึ่งของอาหารที่นักโทษสั่งซื้อจากภายนอกด้วย "เงิน" ที่ญาติพี่น้องฝากไว้กับเจ้าหน้าที่เรือนจำ
เจ้าหน้าที่เรือนจำกลางคลองเปรมเปิดเผยกับทีมข่าว Primetime ว่า "เงินของนักโทษที่ฝากไว้กับเรือนจำรวมแล้วหลายสิบล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นเงินที่ญาตินักโทษนำมาฝากไว้ นักโทษสามารถขอเบิกจากเรือนจำได้วันละไม่เกิน 300 บาท เพื่อนำไปซื้ออาหาร หรือของใช้จำเป็น"
ทีมข่าว Primetime ทราบมาอีกว่า แต่สำหรับ "นักโทษที่ร่ำรวยและมีบารมี" คงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะสร้างบรรยากาศงานเลี้ยงให้แก่เพื่อนๆ นักโทษได้ เพราะฉะนั้นการสั่งอาหารเพื่อเลี้ยงนักโทษทั้งแดนที่อาจจะมีมากถึง 800-1,000 คน เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้เสมอ แต่มีเงื่อนไขว่า ต้องทำเรื่องร้องขออนุญาตต่อผู้บัญชาการเรือนจำล่วงหน้า

"พิซซ่า" ดูจะได้รับความนิยมมากเป็นพิเศษ เพราะสามารถสั่งได้คราวละมากๆ โดยเจ้าหน้าที่เรือนจำบอกทีมข่าว Primetime ว่า "เคยมีนักโทษที่ร่ำรวยและมากบารมี สั่งมาเลี้ยงเพื่อนครั้งเดียวถึง 400 ถาด"

logoline