svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

เลื่อนพิพากษา! เชาวรินธร์ ฉ้อโกง เงินซื้อปูน 11 ล้าน

31 สิงหาคม 2559
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

31 ส.ค.59-ศาลอาญาเลื่อนพิพากษา " เชาวรินธร์ " อดีต รมช.ศธ.ฉ้อโกงเงินบริษัทกัมพูชา สั่งซื้อปูน บ.ทีพีไอ 11 ล้านบาท นัดอีกครั้ง 7 ก.ย.นี้ เหตุรอตรวจสอบคืนเงินบริษัทผู้เสียหาย ขณะที่เจ้าตัว แจงเรื่องเข้าใจผิด โอนเงินบริจาค เมื่อบริษัทโอนผิด ไม่เต็มใจก็พร้อมคืน

31 ส.ค.59-ศาลอาญาเลื่อนพิพากษา " เชาวรินธร์ " อดีต รมช.ศธ.ฉ้อโกงเงินบริษัทกัมพูชา สั่งซื้อปูน บ.ทีพีไอ 11 ล้านบาท นัดอีกครั้ง 7 ก.ย.นี้ เหตุรอตรวจสอบคืนเงินบริษัทผู้เสียหาย ขณะที่เจ้าตัว แจงเรื่องเข้าใจผิด โอนเงินบริจาค เมื่อบริษัทโอนผิด ไม่เต็มใจก็พร้อมคืน
ที่ห้องพิจารณา 907 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เวลา 09.30 น.ศาลนัดอ่านคำพิพากษา คดีหมายเลขดำ อ.639/2558 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง ร.ต.ท.เชาวรินธร์ หรือเชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ อดีตรมช.ศึกษาธิการ และอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกง และพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 3,14(1), 17(1)โดยอัยการโจทก์ ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 27 ก.พ.58 ระบุว่า เมื่อวันที่ 5 พ.ค.57 บริษัท บี.พี.ซี.เทรดดิ้ง จำกัด (ประเทศกัมพูชา) ได้สั่งซื้อ สินค้าจำพวกปูนซิเมนต์ จากบริษัท ทีพีไอ โพลีน พลับบลิค จำกัด (ประเทศไทย) โดยทำใบสั่งซื้อส่งเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ในลักษณะจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านช่องทางเว็บไซต์ [email protected] ซึ่งบริษัท ทีพีไอฯ ได้ออกหลักฐานใบสำคัญเก็บเงินค่าสินค้า เป็นจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ชื่อของ saran.im 11 @gmail.com ; [email protected] ; bpcchhoungonline.com.kh ; [email protected]" แจ้งให้บริษัท บี.พี.ซี. โอนเงินค่าสินค้าจำนวน 352,781 ดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 11,428,308 บาท ผ่านบัญชีเงินฝากของบริษัท ทีพีไอ โดยธนาคารทหารไทย จำกัด

เลื่อนพิพากษา!
 เชาวรินธร์ ฉ้อโกง เงินซื้อปูน 11 ล้าน


ต่อมาวันที่ 6-9 พ.ค.57 จำเลยกับพวกได้ร่วมกันหลอกลวงผู้เสียหายด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ และปกปิดข้อความจริง โดยเข้าไปเปลี่ยนแปลงข้อมูลในหลักฐานใบสำคัญเก็บเงินค่าสินค้าเสียใหม่ เป็นว่าให้บริษัท บี.พี.ซี. โอนเงินทั้งหมดผ่านเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงไทย จำกัด สาขารัฐสภา ชื่อบัญชี Thai and Chinese Bhuddist Culturs ซึ่งเป็นการนำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ จนทำให้บริษัท บี.พี.ซี. หลงเชื่อโอนเงินค่าชำระสินค้าจำนวนดังกล่าวเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงไทย โดยที่บัญชีดังกล่าวเป็นของจำเลยกับพวก ต่อมาจำเลยจึงได้โอนเงินดังกล่าวเข้าไปอยู่ในบัญชีของตัวเอง ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่แขวงและเขตดุสิต และที่ประเทศ จำเลยให้การปฏิเสธ
แต่เมื่อถึงเวลานัด นายเชาวรินธร์ จำเลยได้แถลงขอเลื่อนฟังคำพิพากษาออกไปก่อน เนื่องจากเงินที่ตกลงจะชำระให้แก่บริษัทผู้เสียหายนั้น ได้กู้ยืมจากต่างประเทศ อยู่ระหว่างการตรวจสอบจากธนาคารแห่งประเทศไทยตามขั้นตอน และเมื่อชำระเงินแล้วบริษัทผู้เสียหายจะถอนคำร้องทุกข์และไม่ติดใจเอาความ
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า เงินที่จำเลยจะชำระให้แก่ บริษัทผู้เสียหาย อยู่ระหว่างการตรวจสอบของธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งการขอเลื่อนฟังคำพิพากษาก็เพื่อนำเงินมาชำระให้บริษัทผู้เสียหาย โดยศาลสอบถามอัยการโจทก์แล้วไม่คัดค้าน กรณีจึงมีเหตุจำเป็น ดังนั้นให้เลื่อนอ่านคำพิพากษาออกไปเป็น วันที่ 7 ก.ย.นี้ เวลา 09.00 น.
ภายหลัง ร.ต.ท.เชาวรินธร์ กล่าวว่า ผู้เสียหายโอนเงินบริจาคให้โครงการที่ตนดำเนินการอยู่เข้าบัญชีสมาคมวัฒนธรรมวิถีพุทธไทย-จีน ที่ตนเป็นนายกสมาคมฯ อยู่ในขณะนั้น โดยยอดรวมเงินโอนเข้าจำนวน 11 ล้านบาท ต่อมาเขาไม่เต็มใจก็เอาคืนไป แต่ต้องพิสูจน์ว่าเป็นเจ้าของเงินดังกล่าวจริง ซึ่งเรื่องนี้เป็นคดีแพ่งไม่ใช่คดีอาญา ทั้งนี้ เบื้องต้นมีการทำบันทึกตกลงกันว่าจะถอนฟ้องหากผู้เสียหายได้เงินคืน และตนคงจะไม่ฟ้องกลับใคร เพราะคิดว่าเวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร"เขามาฟ้องฉ้อโกงเพราะโอนเงินผิดบัญชี เมื่อเขาไม่เต็มใจที่บริจาค ผมก็คืนเงินให้เท่านั้นเอง ซึ่งเขายอมลดให้ 50 เปอร์เซ็นต์ เหลือ 5.7 ล้านบาท" ร.ท.เชาวรินธร์ กล่าวชี้แจง

logoline