คุมผู้ต้องหาปล้นรถกระบะในปั๊มน้ำมัน

มาจาก จ.ฉะเชิงเทรา มุ่งหน้าจะกลับบ้านที่ จ.เพชรบูรณ์ มาตามถนนพหลโยธิน แวะเข้าเติมน้ำมันที่ปั้ม ปตท. กิโลเมตรที่ 82 หมู่ 6 ต.ไผ่ต่ำ อ.หนองแค จ.สระบุรี แวะจอดเข้าห้องน้ำ โดย นายบุญเหลือ จอดรถแต่ไม่ดับเครื่องยนต์เพราะมีภรรยาและลูกๆ อยู่ในรถ แต่ นายบุญเหลือปิดประตูรถ แล้วเดินไปเข้าห้องน้ำ

ระหว่างนั้น มีคนร้ายเป็นชายวัยรุ่นเปิดประตูรถกระบะเข้ามานั่งในที่นั่งของคนขับ แล้วใช้อาวุธคล้าย ปืน ปากกามาจี้ที่ลูกสาวคนเล็กที่นั่งคู่อยู่กับภรรยา คนร้ายพูดขู่ว่า หยุดนะ อย่าขยับนะ กูมีปืน กูยิงลูกมึงนะ แล้วคนร้ายก็ขับรถออกจากปั้มน้ำมันออกมาทางคู่ขนาน ที่มีปั้มแก๊สอยู่ติดกัน นางสาวพัชรินทร์ ตัดสินใจแย้งพวงมาลับรถรถกับคนร้ายถูกคนร้ายทั้งต่อย ถีบ เอาลูกทั้งสองโยนลงจากรถซึ่งต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมคนร้ายไว้ได้และนำตัวไปแถลงข่าวที่ตำรวจภาค1นั้น

ล่าสุดเมื่อเวลา14.00น.วันที่29สิงหาคม เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองแค จ.สระบุรี คุมตัว นายวัชรพงษ์ หรือ เอก ชมเหิม อายุ29ปี ชาว อ.ตราพระยา จ.สระแก้ว และ นายฉัตรชัย หรือ นุ่น รักษา อายุ19ปี ชาว อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว เข้าทำแผนที่ ถนนพหลโยธิน ปั้มน้ำมัน กิโลเมตรที่82 ต.หนองไข่น้ำ องหนองแค จ.สระบุรี โดยจุดแรกที่ปั้มน้ำมัน คนร้ายถอยรถเก๋งจอดคู่รถกระบะ และ นายวัชรพงษ์ หรือ เอก เข้าไปใช้ปืนปากกาจี้ ลูกสาวของเหยื่อ ในรถของเหยื่อ และขับถอยหลังออกจากปั้มน้ำมัน

จุดที่สอง เป็นจุดที่ออกจากปั้มน้ำมันได้เพียงประมาณ200เมตร เป็นจุดที่ฝ่ายหญิงภรรยาของเหยื่อ แย่งพวงมาลัยรถ และ ทิ้งเด็กลงจากรถกระบะลงกลางถนน ก่อนขับรถหลบหนีไปจ.สระแก้ว และ นำรถไปฝากไว้ที่อู่ซ่อมรถรุ่งโรจน์การช่าง ของ นายณรงค์ฯ ใน อ.โคกสูง จ.สระแก้วจากนั้นคนร้ายได้ขับรถยนต์เก๋งวีวอส สีขาว ทะเบียน กธ-1965จันทบุรี ไปจอดทิ้งไว้ที่ปั้ม ปตท. เขต อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี และแยกย้ายกันหลบหนีนายฉัตรชัย หรือ นุ่น หลบหนีไป จ.สระแก้ว ส่วน นายวัชรพงษ์ หรือ เอก ได้หลบหนีไป จ.ภูเก็ต

กระทั่งวันที่27สิงหาคม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามจับกุม นายวัชรพงษ์ หรือ เอก ชมเหม ได้ที่ จ.ภูเก็ต และ สามารถจับกุม นายฉัตรชัย หรือนุ่น ได้ที่ จ.สระแก้ว แล้วได้ติดตามไปจับกุม นายณรงค์ เทียนชัย คนรับฝากรถยนต์กระบะของผู้เสียหาย ที่ หมู่8ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว จ.สระแก้วส่วน นายต้น หรือ อ้น รักษา อยู่ระหว่างหลบหนีการจับกุม