พ.ต.อ.จิณวัตร กล่าวว่า นายพลาดร ขี่รถบิ๊กไบค์ผ่านเข้าด่านตรวจ มีท่าทีพิรุธ ชุดจับกุมจึงเรียกตรวจค้น พบอาวุธปืน ในกระเป๋าสะพายสีน้ำตาล เมื่อตรวจค้นใต้เบาะพบบัญชีเงินกู้ จากการสอบถามนายพลาดร พูดจาวกวน คล้ายเมาสารเสพติด จึงส่งตัวไปตรวจหาสารเสพติดที่ รพ.เจริญกรุงประชารักษ์ ปรากฏพบ มีสารออกฤทธิ์ประเภทยาอีอยู่ในร่างกาย จึงนำตัวมาลงบันทึกจับกุม พร้อมสอบปากคำทราบว่า เคยถูกตำรวจ สน.ท่าข้าม จับกุมคดีครอบครองยาบ้าเพื่อจำหน่าย จำนวน 190 เม็ด พร้อมอาวุธปืนเถื่อนขนาด .38 อีก 1 กระบอก เมื่อ 5ปีที่ผ่านมา
"ผมถูกศาลตัดสินจำคุกนาน 2 ปี 6 เดือน พอพ้นโทษออกมาจึงชักชวนเพื่อนๆ อีก 3-4 คน ระดมทุนปล่อยเงินกู้ให้แม่ค้าย่านถนนพระราม 2 และ ถนนเอกชัย คิดดอกเบี้ยร้อยละ 20 และจะช่วยกันขับขี่ รถ จยย.ตามเก็บดอกเบี้ยพร้อมเงินต้นจากลูกค้า ส่วนอาวุธปืนนั้นมีเพื่อนชื่อ นายหง่า อายุประมาณ 30-35 ปี มาจำนำเอาไว้ราคา 30,000 บาท จึงนำมาพกติดตัวเพื่อรอเพื่อนนำเงินมาไถ่คืน สำหรับผลตรวจร่างกายพบยาเสพติดนั้นเมื่อคืนตนไปเที่ยวผับกับเพื่อนๆ เลยเสพยาอีเข้าไป 1 เม็ด เพื่อเพิ่มความสนุกสนาน ไม่คิดว่าจะมาถูกตำรวจจับได้คาด่านในวันนี้" นายพลาดร กล่าว
พ.ต.ท.ชยันต์ กล่าวว่า นายพลาดรมีฉายาที่รู้จักกันในหมู่แม่ค้าที่มากู้เงินว่า "นุ้ยกวนอู" เนื่องจากช่วงที่ต้องโทษจำคุกเจ้าตัวได้ให้พรรคพวกสักรูปเทพเจ้ากวนอูเอาไว้เต็มแผ่นหลัง
เบื้องต้นชุดจับกุมแจ้งข้อหา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในเมือง หมู่บ้าน และทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และเสพยายาอี ส่วนฐานความผิดตาม พ.ร.บ.เงินกู้ ที่คิดดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนด จะต้องเรียกบรรดาลูกค้าเข้ามาสอบสวนเพื่อเป็นพยาน ก่อนจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติม อีกทั้งจะต้องส่งอาวุธปืนไปตรวจสอบที่กองพิสูจน์หลักฐานว่าเป็นปืนของผู้ใด และเคยมีประวัตินำไปใช้ก่อเหตุหรือไม่ ซึ่งถ้าหากเป็นปืนที่เคยถูกแจ้งหายหรือเคยนำไปก่อเหตุก็จะต้องแจ้งข้อหาเพิ่มเติม กับ นายพลาดร ด้วยต่อไป.