น.ส.นริศราวัลถ์ แก้วนพรัตน์ หลานสาวพลทหารวิเชียร เผือกสม กล่าวว่า ไม่ทราบมาก่อนว่า โดนแจ้งความดำเนินคดีที่นราธิวาส ขณะกำลังทำงานอยู่ที่กรมกิจการเด็กและเยาวชน ก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาแสดงตัวพร้อมแสดงหมายศาลและแจ้งข้อหา จากนั้นก็ถูกนำตัวไปที่ สน.มักกะสัน ก่อนจะถูกนำตัวไปที่ จ.นราธิวาส ในวันนั้นขณะถูกควบคุมตัวไม่ได้ถูกใส่กุญแจมือแต่อย่างใด
จริงๆ แล้วตามขั้นตอนจะต้องมีหมายเรียกมาก่อน 2 ครั้ง แต่ดิฉันไม่ได้รับหมายเรียกเลย จู่ๆ ก็มีหมายจับมาเลย ซึ่งได้แจ้งให้ชุดจับกุมทราบ แต่เขาก็บอกว่าปฏิบัติตามหน้าที่ที่ได้รับคำสั่ง หลังจากนั้นมีหมายเรียกไปที่บ้านที่ปทุมธานี และมีคนเซ็นรับแล้ว
ต้องขอขอบคุณ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่สั่งการโดยตรงให้ความอนุเคราะห์เมตตา นางนภา เศรษฐกร อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน รองอธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน พี่ๆ ที่ทำงานกรมกิจการเด็กและเยาวชน และเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็ก จ.นราธิวาส
เมื่อไปถึง จ.นราธิวาส ตอนแรกคิดว่า ครั้งหนึ่งในชีวิตได้นอนในห้องขัง แต่อย่างไรก็ตาม ก็ได้รับความช่วยเหลือประกันตัวออกมาสู้คดี โดยทำเรื่องเสร็จประมาน 03.00 น. วันที่ 27 กรกฎาคม
หลังจากได้รับการประกันตัวออกมาแล้ว ถึงได้ทราบชื่อผู้ที่แจ้งความดำเนินคดีก็คือ นายทหารคนหนึ่งที่เป็นหนึ่งในสิบนายที่เป็นคู่กรณี ซึ่งก่อนหน้านี้เคยคาดการณ์ไว้แล้วว่า จะต้องออกมาเป็นแบบนี้ หากมีหมายเรียกจะเดินทางไปทันที เอกสารสำหรับต่อสู้คดีไว้แล้ว ดิฉันขอยืนยันว่า ไม่ได้เซ็นรับและได้สอบถามญาติญาติก็บอกว่า ไม่เคยเห็นหมายเรียกและไม่ได้เซ็นรับแต่อย่างใด
ในชั้นสอบสวน ดิฉันได้ให้การปฏิเสธ จะไปให้การในชั้นศาล ดิฉันขอยืนยันว่า ไม่ได้โพสต์หมิ่นประมาท เพียงแต่โพสต์ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในขั้นตอนการเรียกร้องความยุติธรรม
ดิฉันต่อสู้เรียกร้องความเป็นธรรมในกระบวนการยุติธรรม เพราะฉนั้น ดิฉันก็พร้อมให้กระบวนการยุติธรรมตรวจสอบเช่นกัน หากดิฉันทำผิดจริง ก็ยินดีรับโทษตามกฎหมาย แต่ถ้าพิสูจน์แล้วไม่ผิด ก็จะฟ้องกลับทั้งทางแพ่งและอาญา ซึ่งตรงนี้จะเป็นอีกคดีหนึ่งไม่เกี่ยวกับคดีพลทหารวิเชียรที่ยังไม่จบ