svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

ประเดิม ม.44 เอาผิด! พ่อ-แม่ "นักเรียนนักเลง" คุก 3 เดือน - ปรับ 3หมื่น โทษรอลงอาญา 2 ปี

16 กรกฎาคม 2559
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ตร.-สอศ.ใช้ไม้แข็ง ม.44 เอาผิดพ่อแม่ เด็กก่อเหตุพื้นที่สน.บึงกุ่ม สั่งจำคุก-ปรับ แต่สารภาพลดโทษกึ่งหนึ่ง คุก 3 เดือน ปรับ 3 หมื่น รอลงอาญา 2 ปี สอศ.เร่งแจ้งเตือนทุกวิทยาลัยเป็นกรณีตัวอย่าง

ดร.ชาญเวช บุญประเดิม รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุคดีพยายามฆ่าโดยคู่กรณีเป็น นักศึกษาอาชีวศึกษา 2 สถาบัน ใช้อาวุธปืนยิงบริเวณปากซอยเสรีไทย 41 ในพื้นที่ สน.บึงกุ่ม ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน จนสามารถนำไปสู่การสืบสวนติดตามจับกุมตัวนักศึกษาผู้ก่อเหตุได้ 2 คน ทั้งผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์และผู้ใช้อาวุธปืนยิง ซึ่งยังเป็นเยาวชนจึงได้มีการประสานสหวิชาชีพร่วมสอบสวน และส่งตัวเข้าสู่สถานพินิจ
   นอกจากนี้ ในคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 30/2559 เรื่อง มาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการทะเลาะวิวาทของนักเรียนและนักศึกษา ได้กำหนดให้ต้องแจ้งให้บิดามารดาหรือผู้ปกครองเข้ามารับทราบการกระทําของเด็กและเยาวชนรวมทั้งร้องทุกข์ กล่าวโทษ หรือปรับ ดังนั้น เมื่อวันที่13ก.ค.59 สน.บึงกุ่ม ได้รับคำร้องทุกข์กล่าวโทษผู้ปกครองเด็กผู้ก่อเหตุทั้ง 2 คน ในความผิดฐาน "กระทำการบังคับ ขู่เข็ญ ยุยง ส่งเสริม ช่วยเหลือ หรือสนับสนุน ให้นักเรียนหรือนักศึกษาฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติ ตาม ม.64แห่ง พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 อันเป็นเหตุให้นักเรียนหรือนักศึกษาไปก่อการทะเลาะวิวาทหรือทำร้ายร่างกายผู้อื่น" 
ทั้งนี้ ผู้ปกครองได้เข้ามอบตัว รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และเมื่อวันที่ 15 ก.ค.59 ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ได้มีคำพิพากษาจำคุกผู้ปกครองเด็กผู้ก่อเหตุทั้ง 2 คน คนละ 6 เดือน ปรับคนละ 60,000บาท ผู้ต้องหารับสารภาพ ลดโทษกึ่งหนึ่งจึงให้จำคุกคนละ 3 เดือน ปรับ 30,000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา มีกำหนด 2 ปี ตามคดีหมายเลขดำที่30/2559คดหมายเลขแดงที่30/2559ลง15ก.ค.59
   "คดีนี้ ถือเป็นคดีแรกที่ดำเนินการตามคำสั่ง คสช.ภายใต้การอำนวยการสั่งการ การติดตามผลอย่างต่อเนื่อง และคำแนะนำด้านเทคนิคการสืบสวนและสอบสวนทางคดี ของ ท่าน ผบก.น.4และ นครบาล4-4จนนำไปสู่การใช้ดุลยพินิจของศาล ตัดสินพิพากษาลงโทษผู้ปกครองเด็กผู้ก่อเหตุ ในอัตราโทษที่ค่อนข้างสูง ซึ่งจะกลายเป็นบรรทัดฐานของคดีลักษณะนี้ในพื้นที่อื่นต่อไป" รองเลขาธิการ กอศ. กล่าว
นายชาญเวช กล่าวด้วยว่า สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) จะได้นำเรื่องนี้แจ้งไปยังสถานศึกษาในสังกัดทั้งรัฐและเอกชน เพื่อย้ำเตือนและนำไปเป็นกรณีศึกษา และกรณีตัวอย่าง เพื่อให้เพิ่มความระมัดระวังในเหตุการณ์รุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้น และขอให้ปฏิบัติตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่30/2559อย่างเคร่งครัด

logoline