svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

จับแล้วโจรขับปิกอัพชน จยย. ก่อนฆ่าชิงเงิน 7 หมื่น

26 พฤษภาคม 2559
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ตามจับทันควันคนร้ายขับกระบะสะกดรอยตามสองผัวเมีย ก่อนเบียดจักรยานยนต์ล้มแล้วตามไปกระชากกระเป๋าชิงเงิน 7 หมื่นบาท ที่เพิ่งเบิกจาก ธกส.อ้างเหยื่อขัดขืนจึงใช้มีดแทงจนตาย

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 26 พ.ค. ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น พล.ต.ต.จตุพล ปานรักษา รอง ผบช.ภ.4 พร้อมด้วยชุดจับกุมจาก สภ.สีชมพูและ กก.สืบสวน 3 บก.สส.ภ.4 แถลงผลจับกุมนายธงศักดิ์ สุดน้อย อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5 ม.9 บ้านมิตรสัมพันธ์ ต.หนองแดง อ.สีชมพู จ.ขอนแก่น ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุใช้มีดแทงนายสมชาย เบ้ามีสี อายุ 59 ปี ชาวบ้านโนนประวัติ ต.บริบูรณ์ อ.สีชมพู จนเสียชีวิตก่อนชิงกระเป๋าที่มีเงินจำนวน 70,000 บาท ที่นายสมชายผู้ตายและนางบุญมา ผู้เป็นภรรยาไปเบิกจากธกส.สาขาสีชมพู



นายธงศักดิ์ ให้การสารภาพว่า ได้ขับรถติดตามสองผัวเมียหลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้พูดคุยกับผู้ตายจนทราบว่ามาเบิกถอนเงินจากธนาคาร จำนวน 120,000 บาท แต่ได้นำไปซื้อสลากออมทรัพย์ของธกส.จำนวน 50,000 บาท จึงเห็นนายสมชายยืนนับเงินแล้วใส่กระเป๋าจำนวนมาก และเป็นคนสูงวัย จึงได้ขับรถตามจนกระทั่งถึงจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นที่ค่อนข้างเปลี่ยวเป็นป่าโคกพะนัง บริเวณระหว่างหมู่บ้านโนนทองหลาง และหมู่บ้านบริบูรณ์ ต.บริบูรณ์ ห่างจากบ้านโนนประวัติบ้านของผู้ตายประมาณ 5 กิโลเมตร จึงได้ขับรถเฉี่ยวชนจนจักรยานยนต์ล้มข้างทาง ทำให้นางบุญมาบาดเจ็บที่ศรีษะจนสลบจมกองเลือด



ส่วนนายสมชายอยู่ในสภาพทุกลักทุเล จึงฉวยโอกาสลงไปแย่งเอากระเป๋าเงินจากนายสมชาย แต่ขัดขืนจึงได้มีดสปริงที่พกติดตัวจ้วงแทงไป 3ครั้งที่บริเวณลิ้นปี่ และสีข้างด้านขวา ส่วนนายสมชายวิ่งกุมแผลไปล้มเสียชีวิตที่ฝั่งตรงข้ามแล้วจึงตามไปหยิบเอากระเป๋าหลบหนีไปโดยระหว่างทางได้โยนมีดทิ้งไปและเอาเงินออกจากกระเป๋าทั้งหมด ส่วนเอกสารอื่น ซึ่งมีสลากออมทรัพย์ของ ธกส. 3 ใบ ทั้งใบที่ซื้อใหม่และใบที่ซื้อก่อนหน้า มูลค่า 74,500 บาท สมุดบัญชีธนาคาร 6 เล่ม โทรศัพท์มือถือ ได้โยนทิ้งข้างทางใกล้อ่างเก็บน้ำบ้านผาขาม ต.บริบูรณ์ พร้อมกับกระเป๋าจากนั้นได้ขับรถกลับบ้านที่บ้านมิตรสัมพันธ์โดยทีแรกไม่คิดจะหลบหนีจึงเอาเงินไปเติมน้ำมัน 500 บาท ส่วนเงินที่เหลือนำไปซ่อนไว้ในห้องน้ำ และอาบน้ำแต่งตัวทำตัวปกติ


จับแล้วโจรขับปิกอัพชน จยย. ก่อนฆ่าชิงเงิน 7 หมื่น


หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจของสภ.สีชมพู และกองกำกับสืบสวน 3 บก.สส.ภ.4 ได้ร่วมกันสืบสวน ทราบว่าก่อนเกิดเหตุผู้ตายพร้อมภรรยาได้ไปเบิกเงินที่ ธกส.สาขาสีชมพู จำนวน 120,000 บาท และได้แบ่งเงินจำนวน 50,000 บาทไปซื้อสลากออมทรัพย์ จากนั้นได้ขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนท้ายกันกลับบ้าน และเมื่อตรวจสอบจากพยานหลักฐาน รวมทั้งกล้องวงจรปิดพบว่า มีรถกระบะมาสด้าสภาพเก่าสีน้ำเงินอมม่วงติดสติกเกอร์ข้อความคิงส์คิว พร้าเล่มงาม แม้ทะเบียนรถจะไม่ชัดเจนแต่มีพยานและภาพจากกล้องวงจรปิดเห็นรูปพรรณสัณฐานของเจ้าของรถชัดเจน ทราบเป็นนายธงศักดิ์ ซึ่งได้ขับรถมาจอดและทำทีมาทำธุระตั้งแต่เช้าและเคยมาจอดรถและนั่งอยู่ในธนาคารมาก่อนหน้านี้ 2 วัน



เจ้าหน้าที่จึงได้ติดตามไปที่บ้านของนายธงศักดิ์ ที่ต.หนองแดง พบรถคันต้องสงสัย ทะเบียน บย 3616 อุดรธานี จอดอยู่บ้านฝั่งตรงข้าม ซึ่งเป็นบ้านพ่อแม่ของนายธงศักดิ์ ส่วนตัวนายธงศักด์อยู่ในบ้านเมื่อพบเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ พยายามจะหลบหนีแต่ไม่ทัน สุดท้ายยอมรับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุและได้พาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปเอาเงินทั้งหมดที่ซ่อนไว้ที่ขื่อภายในห้องน้ำ



ทั้งนี้แม้ว่านายธงศักดิ์ จะอ้างว่าไม่ได้วางแผนล่วงหน้า แต่ได้มาทำธุระรอญาติที่ธนาคาร เพื่อถามข่าวของภรรยาที่มีปัญหากำลังจะหย่ากันอีกไม่กี่วัน และเมื่อเห็นว่านายสมชายซึ่งมีอายุมากแล้วมีเงินจำนวนมาก จึงได้ตัดสินใจก่อเหตุชิงเงิน แต่พฤติการณ์ก่อเหตุของนายธงศักดิ์ ซึ่งบอกว่าปกติมีอาชีพขายกาแฟที่อำเภอชุมแพ แต่ได้หยุดหลายวันเพราะรถพ่วงพัง ก่อนหน้าเคยทำอาชีพขายมีดพร้า แต่ไม่นานได้มีปัญหากับภรรยาที่ต้องการหย่าและกลับไปหาสามีเก่า และมีกำหนดจะต้องหย่ากันในวันที่ 27 พ.ค.นี้



พล.ต.ต.จตุพล กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้มีการประสานให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับสถาบันการเงิน ให้ช่วยกันสังเกตุในกรณีถ้ามีคนเข้ามาธนาคาร แต่ไม่ยอมติดต่อทำธรุกรรมการเงิน โดยมานั่งเฉยๆเป็นเวลานานหรืออาจจะมาบ่อย ขอให้จับตาเป็นพิเศษเพราะอาจจะมาหาเหยื่อและก่อเหตุ แต่ยังเกิดขึ้น ซึ่งคงต้องกำชับให้เข้มงวดมากขึ้น

logoline