ขอความเป็นธรรมรถเก๋งชนลูกตาย

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 4 พ.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ สภ.เมืองพิษณุโลก มีเจ้าหน้าที่กู้ภัย อาสาสมัครกู้ภัย มูลนิธิประสาทบุญสถานพิษณุโลก กว่า 50 คน รวมตัวเรียกร้องขอความเป็นธรรม หลังจากเมื่อช่วงเวลาเที่ยงคืนเศษ ของวันที่ 4 พ.ค. 2559 บุตรชายของเจ้าหน้าที่กู้ภัยวัย 4 ขวบ พร้อมน้าสาววัย 25 ปี ถูกรถเก๋งข้าราชการทหาร ค่ายแห่งหนึ่ง เฉี่ยวชนอย่างจังก่อนที่รถเก๋งคันดังกล่าวจะหลบหนีไปจากจุดเกิดเหตุ ส่งผลให้ทั้ง 2 รายได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนที่ ด.ช.วัย 4 ขวบจะไปเสียชีวิตที่ โรงพยาบาลเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา ส่วนน้าสาววัย 25 ปี เสียชีวิตในเวลาต่อมา

นายณัฐดนัย ยืนเพ็ง อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 473/59 ถ.ภูเก็ต ต.ตลาดใหญ่ อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต อาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิประสาทบุญสถานพิษณุโลก พ่อของเด็กชายวัย 4 ขวบ เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังด้วยอาการเสียใจ ว่าเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมาช่วงเวลา 23.00 น.น้องภูมิ หรือ ด.ช.ณัฐภูมิ ยืนเพ็ง อายุ 4 ขวบ บุตรชายของตน ได้ซ้อนรถจักรยานของน้าสาว คือ น.ส. ชลประทาน งอกสิงห์ อายุ 25 ปี ซึ่งเป็นภรรยาของเจ้าหน้าที่กู้ภัยในกลุ่ม ออกไปทำธุระในตัวเมือง และขณะเดินทางกลับมาถึงหน้าศาลปกครองพิษณุโลก ( เก่า ) ถ.พิชัยสงคราม อ.เมือง จ.พิษณุโลก ได้ถูกรถเก๋ง โตโยต้า ยาริส สีขาว เฉี่ยวชนแล้วหลบหนี ส่งผลให้น้องภูมิอาการสาหัส และไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ส่วนน้าสาววัย 25 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตที่โรงพยาบาลเมื่อช่วง 10.00 น.ที่ผ่านมา

นายณัฐดนัย กล่าวว่า ตนพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัย ได้ช่วยกันตามหารถคู่กรณี ทั่วเมืองพิษณุโลก จนไปพบรถคันดังกล่าวจอดทิ้งไว้ใกล้เคียง มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง จากนั้นผู้ขับรถได้เข้ามามอบตัวช่วงเวลา ตี 4 ที่ผ่านมา ซึ่งตนพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยทุกนายเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมในคดีดังกล่าว เนื่องจากคู่กรณีเป็นข้าราชการทหาร ในค่ายทหารแห่งหนึ่ง ประกอบกับมีพฤติกรรมหลบหนีตั้งแต่ต้น ในวันนี้จึงได้รวมตัวมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมและเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เพราะคดีดังกล่าวส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตถึง 2 ราย

ล่าสุดช่วงเวลา 11.00 น. กลุ่มงานตรวจสถานที่เกิดเหตุ ศูนย์หลักฐาน 6 ได้เดินทางมาตรวจสอบรถทั้ง 2 คัน เพื่อหาร่องรอย และทิศทางของการเฉี่ยวชนเพื่อประกอบสำนวนคดี โดยมีนายชลวัฒน์ ประดิษฐศิริผล อายุ 23 ปี ( สวมชุดทหารอากาศ ) ผู้ที่ขับขี่รถเก๋ง โตโยต้า ยาริส สีขาว หมายเลขทะเบียน 3 กข 9607 กรุงเทพมหานคร คู่กรณี ยืนรอให้การ พร้อมเปิดเผยกับผู้สื่อข่าว รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมขอโทษญาติ และครอบครัวของผู้เสียชีวิต ไม่ได้ตั้งใจให้เกิดเหตุการณ์เช่นกัน ตนพร้อมยอมรับผิด และรับผิดชอบทุกอย่างจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น