แจ้ง 2 ข้อหามือปาหินมาสด้า สารภาพโมโหคู่กรณีด่า "มึงไม่ได้ตายดี"

เวลา 09.30 น.วันที่ 4 พฤษภาคม 2559 ที่ห้องประชุมชั้น 2 สภ.เมืองภูเก็ต อ.เมือง จ.ภูเก็ต พ.ต.อ.พีรยุทธ การะเจดีย์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต รักษาราชการแทนผู้กำกับการ สภ.เมืองภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.ท.คุณเดช ณ หนองคาย รอง ผกก.สส.สภ.เมืองภูเก็ต พ.ต.ท.สมศักดิ์ ทองเกลี้ยง สว.สส.สภ.เมืองภูเก็ต พ.ต.ท.รัฐเขตต์ มั่นเมือง สวป.สภ.เมืองภูเก็ต พ.ต.ท.ชนะ สุทธิมาศ พนักงานสอบสวนชำนาญการ สภ.เมืองภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง นำนายอนุชา ยีมูดา อายุ 20 ปี ผู้ก่อเหตุใช้ก้อนหินขว้างหินใส่กระจกหน้ารถยนต์เก๋ง ยี่ห้อมาสด้า สีขาว หมายเลขทะเบียน กบ 5271 ภูเก็ต ทำให้เสียหลักชนเสาไฟฟ้าเป็นเหตุให้ น.ส.สุนิษา คงคำแก้ว อายุ 25 ปี ซึ่งนั่งรถโดยสารได้รับบาดเจ็บขาซ้ายหัก เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. วันที่ 3 พฤษภาคม 2559 เหตุเกิดตรงข้ามปากซอยแหลมหิน ถ.เทพกระษัตรี (ขาออก) ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยตั้งข้อกล่าวหาฐานความผิด ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส และทำให้เสียทรัพย์

พ.ต.อ.พีรยุทธ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. วันที่ 3 พฤษภาคม 2559 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่ามีเหตุคนร้ายใช้ก้อนหินขว้างใส่กระจกหน้ารถยนต์เก๋ง ยี่ห้อมาสด้า สีขาว หมายเลขทะเบียน กบ 5271 ภูเก็ต ทำให้เสียหลักชนเสาไฟฟ้าเป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บ เหตุเกิดตรงข้ามปากซอยแหลมหิน ถ.เทพกระษัตรี (ขาออก) ต.เกาะแก้ว อ.เมืองภูเก็ต ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ทำการสืบสวนจากพยานหลักฐานและกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ จนทราบว่าผู้ก่อเหตุคือใคร รวมทั้งติดตามตัวผู้ก่อเหตุอย่างต่อเนื่อง

จนต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับการติดต่อจากนายอนุชา ยีมูดา ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุแจ้งความประสงค์ขอเข้าพบเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ต เพื่อให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องในช่วงค่ำวันเดียวกัน พร้อมนำรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 100 สีแดง หมายเลขทะเบียน กษษ 944 ภูเก็ต คันที่ใช้ขับขี่มาก่อนก่อเหตุมามอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดนำส่งพนักงานสอบสวนไว้เป็นหลักฐานในคดี พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาในฐานความผิดทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส และทำให้เสียทรัพย์ โดยทางเจ้าหน้าที่พร้อมให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย พ.ต.อ.พีรยุทธ กล่าว

โดยนายอนุชา เล่าให้ฟังถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 100 สีแดง หมายเลขทะเบียน กษษ 944 ออกจากซอยเกาะแก้ว 16 แล้วขับมาตามถนนเทพกระษัตรี (ขาเข้า) โดยมี น.ส.ขนิษฐา ยีมูดา เป็นผู้ซ้อนท้าย จนถึงจุดกลับรถบ้านสะปำได้มีรถยนต์เก๋งยี่ห้อมาสด้า สีขาว ขับมาปาดหน้ารถจักรยานยนต์ของตน จึงได้เร่งรถจักรยานยนต์ติดตามและเรียกให้หยุดรถ เพื่อจะว่ากล่าวเรื่องที่ขับรถปาดหน้า แต่รถยนต์เก๋งคันดังกล่าวไม่หยุดและพยายามขัยมาปาดหน้าอีก จนกระทั่งมาถึงบริเวณปากซอยหมู่บ้านแหลมหิน คนขับรถยนต์เก๋งก็ได้ขับรถปาดหน้ารถของตนเอง พร้อมทั้งได้ตะโกนออกมาว่า เดี๋ยวมึงไม่ได้ตายดี และได้ขับรถยนต์หนีไป โดยได้ไปกลับรถบริเวณหน้าศูนย์รถยนต์นิสสัน เอ.อาร์. แล้ววิ่งมาตามถนนเทพกระษัตรี (ขาออก) ด้วยความโมโหตนจึงหยิบก้อนหินจากข้างถนนในบริเวณดังกล่าว แล้ววิ่งข้ามถนนไปหยุดรออยู่บริเวณเกาะกลาง เมื่อรถยนต์เก๋งคันดังกล่าวขับผ่านมา จึงได้ใช้ก้อนหินขว้างไปที่กระจกหน้ารถยนต์เก๋ง ทำให้รถยนต์เสียหลักไปชนเสาไฟฟ้า ด้วยความตกใจจึงขับรถหลบหนีไป

หลังจากกลับถึงบ้าน ได้ดูข่าวพบว่าถูกกระแสโซเซียลที่ประณามทำให้เสียหาย และทราบว่ามีเด็กอยู่ในรถด้วย จึงรู้สึกผิดค่อนข้างมาก และตัดสินใจเข้ามอบตัว รวมทั้งขอโทษผู้เสียหาย เพราะไม่ได้ตั้งใจที่จะให้เกิดเรื่องขึ้น และเหตุที่เข้าไปเคาะกระจกรถนั้นเพื่อบอกให้คำรถดีๆ และต้องการคำขอโทษเท่านั้น ซึ่งรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างมาก พร้อมฝากไปยังผู้ขับรถบนท้องถนนอย่าเห็นแก่ตัว และต้องใจเย็นๆ มิเช่นนั้นอาจจะต้องตกอยู่ในสภาพของตน นายอนุชากล่าว

ขณะที่น.ส.ขนิษฐา ยีมูดา ภรรยาของนายอนุชาฯ กล่าวว่า อยากฝากไปยังผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ ว่า อยากให้ฟังความทั้งสองด้าน เพราะคุณไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ และไม่รู้ด้วยว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ซึ่งขณะนั้นยอมรับว่าค่อนข้างตกใจและกลัวมาก พยายามเตือนสามีให้ใจเย็นๆ แต่ด้วยคำพูดของฝ่ายตรงข้ามก็ห้ามไม่ไหว และฝากผู้ขับขี่รถสี่ล้อหรือรถใหญ่อยากให้เห็นใจรถเล็กบ้าง และใช้ถนนร่วมกันอย่างมีน้ำใจ