แก๊งโบกรถหน้าวัดโสธร เป็นปัญหาเรื้อรัง

เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2559 เวลา 15.30 น. พ.ต.อ.ธราเทพ ตูพานิช ผกก. สภ.เมืองฉะเชิงเทรา กล่าวถึงกรณีที่มีการแชร์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก ของนายชินวุฒิ วโรดม (Chinnavut Valodome) ที่อ้างว่าได้เดินทางมาทำบุญไหว้พระยังที่บริเวณวัดโสธรวราราม วรวิหาร อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา แล้วถูกแก๊งรีดเงินบุญ โบกนำพารถไปจอด ก่อนที่จะลวงขายดอกบัวพร้อมธูปเทียนบูชาพระให้ในราคาแพงสูงลิ่วถึง 680 บาท ในช่วงวันหยุดยาวของผู้ใช้แรงงาน เมื่อเวลา 16.15 น. วันที่ 30 เม.ย.59 ที่ผ่านมานั้นว่า
เรื่องดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา นั้น ได้เข้าไปทำการตรวจสอบ และจับกุมกลุ่มบุคคลซึ่งมาเร่ขายดอกไม้ในบริเวณโดยรอบวัดแล้ว ซึ่งเมื่อวานนี้นั้นสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ รวม 12 คน และในวันนี้ยังได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาได้มาเพิ่มอีก จำนวน 9 คน แต่สามารถดำเนินคดีทางกฎหมายได้แค่เพียงเปรียบเทียบปรับ แล้วปล่อยตัวไปเพียงคนละ 500 บาทเท่านั้น ในข้อหา ก่อความเดือดร้อนรำคาญ แก่บุคคลอื่น ซึ่งมีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 500 บาท เท่านั้น

ส่งผลให้กลุ่มบุคคลที่เข้ามาประกอบอาชีพหากินในลักษณะนี้ไม่เข็ดหลาบ หรือเกรงกลัวต่อกฎหมายเจ้าหน้าที่บ้านเมือง เพราะค่าปรับนั้นน้อยมาก พอถูกปล่อยตัวกลับไป กลุ่มคนเหล่านี้ก็กลับไปกระทำการหล่อลวงเหยื่อ และหาเงินมาได้มากกว่าค่าปรับอีกต่างหาก
ส่วนมาตรการระยะยาวนั้น ปัญหานี้ถือว่าเป็นปัญหาเรื้อรัง ที่เกิดขึ้นมานานแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นในช่วงที่มีเทศกาลวันหยุดยาว หรือในวันที่มีผู้คนเดินทางเข้ามาทำบุญยังที่วัดโสธรจำนวนมาก โดยทางกลุ่มคนเหล่านี้ก็จะแฝงตัวเข้ามายึดสถานที่ ในการทำมาหากิน ซึ่งทางตำรวจก็ได้ออกไปไล่จับกุมตัวมาดำเนินคดีอยู่เนืองๆ วันละ 2-3 ราย ในวันหยุดปกติโดยมีบางวันก็ไม่สามารถทำการจับกุมมาได้
ที่ผ่านมาทาง นายอนุกูล ตังคณานุกูลชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ก็ได้มีการประสานงานมายัง สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ซึ่งก็จะได้มีการนัดประชุมกัน เพื่อแก้ไขปัญหา ซึ่งต่อไปก็อยากจะให้ทางฝ่ายทหารนั้นได้เข้ามาร่วมด้วย เพราะโทษตามกฎหมายที่ทางตำรวจจะสามารถดำเนินคดีได้นั้น มันน้อยเกินไป เมื่อถูกปล่อยตัวกลับไปแล้ว เขาก็ยังไปหาค่าปรับได้เงินคืนมาได้แล้ว จึงต้องมีบทลงโทษที่หนักมากกว่านี้

พ.ต.อ.ธราเทพ กล่าวอีกว่า โดยในทางปฏิบัตินั้น เมื่อทางเรานำเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่ไป กลุ่มคนพวกนี้ก็จะหลบๆ หายไป แต่พอคล้อยหลังเจ้าหน้าที่กลับไปแล้ว เขาก็กลับมาทำกันอีก ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้มีทั้งคนพื้นที่เอง และมาจากต่างพื้นที่ หรือบางครั้งก็ยังมีชาวต่างชาติเข้ามาหากินปะปนอยู่ด้วย โดยเฉพาะในช่วงของเทศกาลที่มีคนเยอะๆ จนทางเจ้าหน้าที่นั้นแยกไม่ออกว่าใครเป็นใคร เพราะมีการเปลี่ยนหน้ากันมาตลอด ดูจากผลการจับกุมตัวผู้ก่อเหตุมาได้เป็นเวลา 2 วัน รวม 21 คนนั้น เป็นผู้ก่อเหตุที่ไม่ซ้ำหน้ากันเลย ทั้งๆ ที่ทำการจับกุมในจุดเดิม จุดเดียวกัน
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เมื่อวันที่ 1 พ.ค.59 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันหยุดแรงงานแห่งชาตินั้น ได้มีประชาชนจำนวนมากพากันเดินทางแสวงบุญ ไหว้พระขอพรจากหลวงพ่อโสธรเป็นจำนวนมาก จนการจราจรติดขัดไปทั่วทั้งเมือง และยังพบด้วยว่าแก๊งค์ขบวนการโบกรถที่บริเวณด้านหน้าอาคารจอดรถ 5 ชั้นของทางวัด ซึ่งอยู่ทางด้านฝั่งตรงข้ามกับพระอุโบสถหลังใหญ่นั้น
ได้มีแก๊งขบวนการดังกล่าว ได้ไปยืนขวางทางขึ้นอาคารจอดรถ เพื่อดักเรียกโบกรถของผู้ที่จะมาทำบุญไหว้พระ ให้ไปจอดยังในบริเวณด้านข้างอาคารจอดรถ และด้านหลังแทน เพื่อที่จะลวงเรียกเหยื่อขายเครื่องบูชาไหว้พระในราคาแพง ทั้งๆ ที่สถานที่จอดรถบนอาคาร 5 ชั้นนั้น ยังมีพื้นที่ว่างอยู่อีกเป็นจำนวนมาก