หนุ่มใหญ่ตามง้อสาวไม่สำเร็จ ชักปืนยิง-จ่อหัวตายตาม ดับคู่กลางห้างดัง

เมื่อเวลา 10.45 น. วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ร.ต.ท.ศุภลักษณ์ พรมวงษ์ พนักงานสอบสวน สภ.ย่อยรัตนาธิเบศร์ ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บภายในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขารัตนาธิเบศร์ ถ.รัตนาธิเบศร์ ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วย พล.ต.ต.สุศักดิ์ ปรักกมะกุล ผบก.ภ.จว.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สภ.ย่อยรัตนาธิเบศร์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน(พฐ.) และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุบริเวณชั้น 2 ช่วงระหว่างหน้าร้านกาแฟเมซโซ่ (mezzo) กับร้านไอสตูดิโอ(istudio) มีประชาชนที่เดินห้างฯดังกล่าวอย่างคับคั่งต่างตื่นตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่พบ น.ส.พิจักขณา สมสกุล อายุ 44 ปี ใส่ชุดดำนอนคว่ำหน้า ถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่ท้ายทอยและลำตัวรวม 2 นัด นอนหายใจรวยริน จึงรีบนำตัวส่งห้องพยาบาลของห้างฯ เนื่องจากถูกยิงเข้าจุดสำคัญเสียเลือดมาก ทำให้เสียชีวิตในเวลาต่อมา 
ส่วนผู้ก่อเหตุ คือ นายสุชาติ เพื่อประดิษฐ อายุ 50 ปี สวมใส่ชุดดำนอนหงายเสียชีวิตจมกองเลือด เนื่องจากใช้อาวุธปืนยิงตัวเองหลังก่อเหตุ มีบาดแผลถูกยิงที่ศีรษะด้านขวา ใกล้กันพบอาวุธปืนลูกโม่ สีดำ ขนาด .38 ตกอยู่ข้างลำตัวข้างขวาของนายสุชาติ นอกจากนี้เหตุดังกล่าวยังมี ด.ญ.ประภัสสร ขวัญเอี่ยม อายุ 9 ขวบ โดนลูกหลงถูกยิงเข้าที่ปลายคาง เจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งนำตัวส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า ล่าสุดอาการปลอดภัย
จากการสอบถามเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย(รปภ.)ของห้างฯดังกล่าว ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 10.00 น. ซึ่งเป็นเวลาที่ห้างเปิดทำการแล้ว ได้มีเหตุทะเลาะวิวาทกันบริเวณบันไดเลื่อนที่จะขึ้นไปชั้น 2 ลักษณะเหมือนสามีตามง้อภรรยา มีการทะเลาะกันส่งเสียงดังทาง รปภ. จึงเข้าไปห้ามและแยกทั้งคู่ออกจากกัน 
จากนั้น น.ส.พิจักขณา ได้ขึ้นบันไดเลื่อนไปที่ชั้น 2 เพื่อไปทำงานเป็นแม่ค้าขายเสื้อผ้า โดยร้านอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุระหว่างร้านกาแฟเมซโซ่ที่อยู่ฝั่งขวามือ กับร้านไอสตูดิโอที่อยู่ฝั่งซ้ายมือ กระทั่งนายสุชาติตามขึ้นไปแล้วใช้อาวุธปืนยิง น.ส.พิจักขณา ได้ยินเสียงดัง 3 นัด ก่อนจะใช้ปืนกระบอกเดียวกันยิงตนเองเสียชีวิต โดยมี ด.ญ.ประภัสสร ถูกลูกหลงได้รับบาดเจ็บ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดเหตุมารดาของนายสุชาติ(ไม่เปิดเผยชื่อ) ได้เดินทางมาที่เกิดเหตุด้วยความเสียใจ ก่อนจะให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ว่า ข้อเท็จจริง หรือสาเหตุที่แท้จริงจนลูกชายตัวเองตัดสินใจก่อเหตุแบบนี้ไม่รู้ แต่เท่าที่รู้คือลูกชายของตนได้คบหากับ น.ส.พิจักขณา อยู่กินฉันสามีภรรยามานานหลายปี ทั้งที่ก่อนหน้านี้ น.ส.พิจักขณา ก็มีครอบครัว มีสามี มีลูกด้วยกัน 2 คน แต่ไม่แน่ใจว่าเลิกกับสามีเก่าแล้วหรือยัง ซึ่งก็ไม่ได้เข้าไปยุ่งเพราะโตๆกันแล้ว
 ต่อมาช่วงหลังทราบว่าลูกชายกับแฟนคนนี้เริ่มมีปัญหาระหองระแหง โดยฝ่ายหญิงพยายามจะเลิก ตีตัวออกห่าง แยกกันอยู่ แต่ลูกชายยังทำใจไม่ได้พยายามตามง้อขอคืนดีเรื่อยมา ก็ไม่เป็นผล จนมาเกิดเหตุสลดขึ้นครั้งนี้
ด้านพล.ต.ต.สุศักดิ์ กล่าวว่า จากการสอบถามพยานในเบื้องต้นทราบว่า ระหว่างเกิดเหตุ ด.ญ.ประภัสสร มากับผู้ปกครอง โดยได้นั่งกินขนมอยู่ที่ร้านกาแฟเมซโซ่ จึงถูกลูกหลงจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งนายสุชาติได้ใช้ปืนยิงขณะเดินตาม น.ส.พิจักขณา ที่ยืนหันหลังให้ สาเหตุน่าจะเป็นปัญหาเรื่องความรัก เนื่องจากนายสุชาติตามง้อขอคืนดีแต่ไม่เป็นผล จึงได้ก่อเหตุดังกล่าวขึ้น 
ส่วนอาวุธปืนที่เข้ามาที่สาธารณะ โดยเฉพาะในห้างสรรพสินค้านั้น ทางห้างมีระบบรักษาความปลอดภัยอยู่แล้ว มีการตรวจตราเป็นปกติอยู่แล้ว แต่วันนี้(14 ก.พ.)มีคนเยอะ และคนร้ายน่าจะตั้งใจมาก่อเหตุ หรือคิดเตรียมการไว้แล้ว จึงได้ซุกซ่อนมาเป็นอย่างดี ทำให้สามารถเล็ดลอดระบบรักษาความปลอดภัยของห้างฯมาได้

ทั้งนี้ นายสุชาติได้ขับรถยนต์เก๋ง โตโยต้า รุ่นโคโรรา สีขาว ทะเบียน 8ช 6870 กรุงเทพมหานคร มาจอดที่ลานจอดรถด้านนอกหลังห้างฯ หลังจากนี้จะประสานญาติตรวจสอบทรัพย์สินมีค่าในรถ ก่อนจะนำรถไปที่ สภ.ย่อยรัตนาธิเบศร์ เพื่อนตรวจเก็บหลักฐานต่อไป ขณะเดียวกันก็ให้ฝ่ายสืบสวนสอบสวนรวบรวมหลักฐานในจุดเกิดเหตุพร้อมภาพจากกล้องวงจรปิดประกอบสำนวนคดีด้วย

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับน.ส.พิจักขณา เป็นคนที่หน้าตาดี เคยมีครอบครัวมาแล้ว โดยมีลูกด้วยกัน 2 คน และเลิกรากับสามีเก่าไปนานหลายปี ส่วนนายสุชาติเป็นแฟนใหม่อยู่กินด้วยกันฉันสามีภรรยา ช่วงหลังเริ่มระหองระแหง และนายสุชาติระแวงหนักเนื่องจาก น.ส.พิจักขณา มีชายหนุ่มมาติดพัน ประกอบกับพยายามตีตัวออกห่างอยากจะเลิกกับนายสุชาติ