น.ส.อาภรณ์ แก่นวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) บอกว่า จากกรณี พล.ต.กิตติภพ มนูญนิมิต รองเจ้ากรมกิจการพลเรือนทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย,นางจันทิรา วิเศษณัฐ อาจารย์ประจำวิทยาลัยอาชีวธนบุรี,นายภากิติ์ ตรีสกุล อาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา แจ้งความกองบังคับการปราบปราม เพื่อร้องทุกข์กรณีที่ต้องตกเป็นหนี้ หลังจากค้ำประกันทุนการศึกษาจำนวน 10 ล้านบาท ให้แก่นางภัทรพร บัวทอง อดีตอาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา ได้รับทุนและเมื่อสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกแล้ว แต่ไม่กลับประเทศไทยและไม่ชดใช้ทุน ทำให้ผู้ค้ำประกันต้องแบกรับหนี้สินแทนกว่า 4 ล้านบาทนั้น
ขณะนี้ได้มอบให้สำนักนิติการ สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว แต่โดยปกติหากผู้รับทุนผิดสัญญาการรับทุน ทางต้นสังกัดก็จะดำเนินการฟ้องร้องผู้รับทุนก่อน แต่หากไม่สามารถตามตัวผู้รับทุนมารับผิดชอบได้จริงๆ ก็จำเป็นต้องฟ้องร้องผู้ค้ำประกันต่อไป ซึ่งทุกหน่วยงานก็รู้สึกเห็นใจผู้ค้ำประกัน เพราะมีเจตนาดีที่ช่วยค้ำประกันให้ แต่ต้องกลับมาใช้ทุนคืนแทน
ดังนั้น จึงช่วยเหลือไกล่เกลี่ยให้ผู้ค้ำประกันชำระเงินคืนเฉพาะเงินต้นที่ผู้รับทุนได้รับไปจริงๆ ไม่คิดค่าเบี้ยปรับหรือดอกเบี้ย แต่จะไม่ให้ผู้ค้ำประกันใช้เงินแทนคงไม่ได้ เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ค้ำประกันก็มีความเสี่ยงอยู่แล้วที่จะต้องรับผิดชอบร่วม ดังนั้น การที่จะเป็นผู้ค้ำประกันให้ใครก็ควรคิดให้ดีก่อนที่จะเซ็นค้ำประกัน
เลขาธิการสกอ. บอกอีกว่า หลังจากเกิดกรณีที่ผู้รับทุนไม่กลับมาใช้ทุนคืน ทาง พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ ได้มอบให้สกอ. เชิญสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน กระทรวงการคลัง และกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มาประชุมหารือเกี่ยวกับการจัดสรรทุนของรัฐบาล ซึ่งอนาคตอาจจะต้องปรับเปลี่ยนเงื่อนไข ขณะนี้อยู่ระหว่างประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ว่าจะหารือเรื่องดังกล่าวได้ในวันใด โดยในส่วนของสกอ. กำลังรวบรวมข้อมูลกรณีการผิดสัญญาการรับทุนของ สกอ. ทั้งหมด เพื่อนำเสนอต่อที่ประชุมในครั้งนี้ด้วย