ผบ.ตร.มั่นใจมีหลักฐานเอาผิด "อาร์ตูร์" แม้นดีเอ็นเอเสื้อเปื้อนเลือกไม่ตรง

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงคดีฆ่าหั่นศพนายเดวิดเบอร์นาร์ด อายุ 40 ปี นักธุรกิจชาวเปน ว่า ยังไม่ได้รับผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ จากสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ขณะนี้หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ถือเป็นสิ่งสำคัญในการมัดตัวผู้ต้องหา


แต่ขณะเดียวกัน ชุดสืบสวนยังคงเก็บรวบรวมพยานหลักฐานอื่นให้มีความแน่นหนามากขึ้น ทั้งนี้ มั่นใจว่านายอาร์ตูร์ หรือ อาเธอร์ เซการ์รา ปรินเซป จะต้องถูกดำเนินคดีอย่างแน่นอน เนื่องจากนายเดวิด เบอร์นาร์ด ผู้ตาย อยู่กับนายอาร์ตูร์เป็นคนสุดท้าย รวมทั้ง ตำรวจยังได้หลักฐานเป็นกล้องวงจรปิด จากร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้างแห่งหนึ่งว่า นายอาร์ตูร์ เข้าไปซื้อสิ่งของชนิดหนึ่งในร้านขายวัสดุก่อสร้าง แต่ขณะนี้ ยังไม่สามารถเปิดเผยได้


ขณะที่ พล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข ผู้บังคับการกองพิสูนจ์หลักฐานกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุเบื้องต้นผลการตรวจดีเอ็นเอ จากเสื้อเปื้อนเลือดและก้นบุรี่ ที่เก็บมาจากหมู่บ้านเดอะวิลลา ซอยรามคำแหง 174 ซึ่งเป็นทาวน์เฮาส์ของนายอาร์ตูร์ เซการ์รา ปรินเซป อายุ 37 ปี ชาวสเปนผู้ต้องหา ที่เช่าไว้ ผลดีเอ็นเอ ไม่ตรงกันกับนายอาร์ตูร์ โดยได้ผลดีเอ็นมนุษย์ 3 คน เป็นผู้ชาย 2 คน และผู้หญิง 1 คน ซึ่งเป็นส่วนที่เก็บได้จากก้นบุหรี่ อย่างไรก็ตาม ต้องมีการเทียบเคียง ดีเอ็นเอของผู้ต้องหา และผู้เสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง ว่าจะมีความเชื่อมโยงกันหรือไม่


พล.ต.ต.ธวัชชัย กล่าวอีกว่า วัตถุพยาน หลักฐานตามจุดต่างๆ โดยเฉพาะคราบเลือดภายในห้องน้ำ ของห้องเลขที่ 168 ชั้น 7 พีจี รามา 9 คอนโดมิเนียม ตั้งอยู่ที่ ถ.พระรามเก้าของนายอาร์ตูร์ ผู้ต้องหาในคดีนี้นั้น พบว่ามีร่องรอยการเก็บทำความสะอาดอย่างดี แต่ยังสามารถเก็บหลักฐานมาได้บางส่วน แต่ค่อนข้างตรวจสอบยาก


เนื่องจากถูกทำลายและชำระล้างจากน้ำยาบางอย่างไปเกือบหมดแล้ว และเกิดมาหลายวัน อาจทำให้ดีเอ็นเอ ถูกกัดกร่อนทำลาย จนไม่สามารถสกัดมาตรวจพิสูจน์ได้ จึงถือเป็นเรื่องที่หนักใจของเจ้าหน้าที่ในการตรวจสอบเช่นกัน แต่ยืนยันว่าจะพยายามให้ถึงที่สุด เชื่อว่ามีวัตถุพยานและหลักฐานอื่นๆ อีกจำนวนมากที่จะสามารถตรวจหาความเชื่อมโยงในคดีได้แน่